จากนี้เราไม่ควรกำหนดความแรงของรถกันที่ขนาดเครื่องยนต์อีกต่อไป!!!
ทีมงาน thaiautopress.com ได้รับเกียรติจาก ฟอร์ด ประเทศไทย ให้เดินทางไปทดสอบรถยนต์รุ่น Ford Fiesta ที่เชียงใหม่ โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ตัวใหม่ขนาด 1.0 ลิตร ภายในชื่อเครื่องยนต์ว่า EcoBoost แน่นอนว่าครั้งแรกที่หลายคนรวมทั้งตัวผมเองรู้ข่าวว่า ฟอร์ดจะออกเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร ย่อมนึกไปถึงความเกี่ยวข้องกับรถยนต์ในโครงการอีโค่คาร์ และก็คิดไปเองว่ามันเป็นเครื่องยนต์ที่เล็กคงไม่มีอะไรน่าสนใจ อาจจะผลิตออกมาก็เพื่อต้องการเพียงแค่ความประหยัดน้ำมันให้กับผู้ขับขี่เท่านั้นเอง
แต่จากการทดสอบในระยะทางกว่า 102 กิโลเมตร ที่ทางฟอร์ดจัดทริปไว้ให้ ตั้งแต่ขับออกตัวจากตัวเมืองที่ถนนช้างคลาน ไปจนถึงทางขึ้นเขาที่แม่ริมและทางคดโค้งต่างๆ นั้น ทำให้ความคิดของผมเปลี่ยนไป บอกเลยว่า จากวินาทีนี้เราไม่ควรวัดความแรงของรถกันที่ขนาดเครื่องยนต์อีกต่อไป!!!
สำหรับ Ford Fiesta นั้นถือว่าเป็นรถรุ่นยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งบนถนนเมืองไทย และรุ่นนี้เองที่พลิกโฉมหน้าของฟอร์ดไปตลอดกาล เพราะมันสามารถทำให้รถจากฟอร์ดกลับมามีที่ยืนบนตลาดรถยนต์เมืองไทยอีกครั้ง แต่ความสำเร็จย่อมต้องมีการพัฒนาต่อไป เพื่อรอวันที่สำเร็จ (กว่า) ดังนั้นแทนที่ฟอร์ดที่พยายามปรับเปลี่ยนเพียงแค่รูปลักษณ์ของรถและเอาออกมาขายใหม่เหมือนที่ค่ายรถต่างๆ ทำมา ดังนั้นเทคนิคที่จะสานต่อความสำเร็จของรถรุ่นยอดนิยมของฟอร์ดนั้น จึงได้ทำการเปลี่ยน “เครื่องยนต์” ให้ดีกว่าเดิมนั่นเอง
“ใครเขาเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้เล็กลงกัน!!!” หลายคนนึกสงสัยในรถยนต์ของฟอร์ด . . .
เครื่องยนต์ใหม่ที่บอกก็คือ Ecoboost ขนาด 1.0 ลิตรนี่แหละ แต่เป็นที่ชัดเจนว่า รถรุ่นนี้ฟอร์ดบอกว่าไม่ใช่อีโค่คาร์และไม่มีการนำเข้ารับสิทธิ์อีโค่คาร์แน่นอน และสำหรับ Ford Fiesta Ecoboost 1.0 ลิตรนี้จะเป็นรถในกลุ่ม B-Segment โดยฟอร์ดต้องการพัฒนาเครื่องยนต์ให้เล็กลง ซึ่งขนาดของเครื่องอีโคบู๊สต์นี้เท่ากับกระดาษ A4 ดังนั้นพอเครื่องเล็กลง ชิ้นส่วนในการประกอบก็น้อยลง ส่งผลให้รถมีน้ำหนักที่เบาขึ้น วิ่งได้แรงขึ้น เพราะอีโค่บู๊สต์คันนี้สามารถให้พละกำลังได้ถึง 125 แรงม้า (92 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุดถึง 170 นิวตันเมตร ซึ่งน่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ของบรรดาค่ายรถยนต์ในเมืองไทยที่กำลังพัฒนาขนาด CC ของเครื่องยนต์ให้เล็กลง แต่มีแรงม้าที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม (ส่วนต่างประเทศมีมานานแล้ว) สำหรับเครื่องยนต์ตัวนี้เป็นเครื่องยนต์ที่ผลิตในโรงงานผลิตเครื่องยนต์ของฟอร์ดที่ประเทศโรมาเนียและเยอรมัน ส่งตรงมายังโรงงานที่ไทย ดังนั้นบอกได้เลยว่า เครื่องที่อีโคบู๊สต์ที่ใช้ในเมืองไทยคือ มาตรฐานเดียวกันกับในยุโรปแน่นอน
EcoBoost 1.0 ลิตรนั้นเป็นเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ทางฟอร์ดบอกว่าเป็นการนำลักษณะเด่นของเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินมารวมกัน ผสมผสานการทำงานของระบบไดเร็กอินเจ็กชั่นเข้ากับเทอร์โบชาร์จและระบบวาล์วแปรผัน ให้พละกำลังอย่างที่บอกไปว่า 125 แรงม้า และแรงบิด 170 นิวตันเมตร เทียบเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปที่มีขนาด 1.6 ลิตรเลยทีเดียว โดยมีแรงบิดสูงสุดมาที่ความเร็วเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,400 – 4,500 รอบต่อนาที แน่นอนว่าตัวเลขแบบนี้ย่อมหมายถึง การออกตัวหรือเร่งแซงของรถที่กดคันเร่งปุ๊บ รถก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ทันที นั่นเพราะเครื่องยนต์แม้จะเล็กแต่ให้กำลังสูง เมื่อเข้าคู่กับรถขนาดไม่ใหญ่นัก มันจึงทำให้ Fiesta EcoBoost 1.0 ลิตรมีความแรงเกินหน้าเกินตา

สำหรับเครื่องยนต์อีโค่บู๊สต์ 1.0 ลิตรนี้นับว่าเป็นน้องใหม่ล่าสุดในตระกูลเครื่องยนต์อีโค่บู๊สต์ของฟอร์ดซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายขนาด เช่น เครื่องยนต์แบบ 4 สูบขนาด 1.4 ลิตร 1.6 ลิตร และ 2.0 ลิตร รวมทั้งเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตรอีก 2 รุ่น ซึ่งความโดดเด่นของเครื่องยนต์แบบอีโค่บู๊สต์คือ มีความสามารถในการประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่า โดยไม่ทำให้สมรรถนะในการขับขี่ลดลง
Test Drive
ก่อนทดสอบรถก็ต้องลองเดินสำรวจภายนอกตัวรถเสียก่อน ต้องบอกเลยว่า เฟียสต้าตัวใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาอย่างดี หน้าตามองดูแล้วให้อารมณ์เหมือน แอสตัน มาร์ตินเป็นอย่างยิ่ง นั่นอาจเป็นเพราะกระจังด้านหน้ารูปสี่เหลี่ยมคางหมูที่ถูกยกให้สูงขึ้นจากรุ่นเก่าตัดขอบด้านข้างด้วยไฟหน้า และยังมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ทั้ง กระโปรงหน้ารถที่นูนขึ้น กันชน ไฟหน้า ไฟตัดหมอก ทั้งหน้าและหลังให้ดูมีความสปอร์ตมากขึ้นมากว่าเดิม เพิ่มส่วนตัด ส่วนเว้า และส่วนโค้งให้เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์และน่าจะทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยแน่
ส่วนภายในตัวรถก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนัก เพราะว่าความหรูหราและสวยงามเหมือนรถสปอร์ต เฟียสต้าคันนี้ยังมีครบแบบไม่ตกหล่นไปไหน แผงคอนโซลวัสดุเคลือบเงา ที่ออกแบบให้ดูคล้ายสมาร์ทโฟนไซส์ยักษ์ พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง
เริ่มต้นการทดสอบ ผมขอพูดในเรื่องของภาพรวมต่างๆ เพราะว่าลักษณะการขับขี่ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ยอดนักแข่ง F1 มาทดสอบรถก็อาจจะบอกว่ารถไม่แรงก็เป็นได้ แต่เอาตามมาตรฐานของคนขับขี่ทั่วไปที่อยากจะแนะนำเพื่อน พี่ หรือคนรู้จักก็แล้วกัน
ถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ที่เราได้ทดสอบความนุ่นนวลในการขับขี่ ความเงียบของห้องโดยสาร ความคล่องตัวของรถและระบบเกียร์พาวเวอร์ชิฟท์ ซึ่งจากการขับทดสอบนั้น แรกสัมผัสในการกดคันเร่ง เฟียสต้าที่ใช้เครื่องยนต์แค่ 1.0 ลิตร กลับให้พลังที่แรงมากกว่าที่คิด กดปุ๊บ รถพุ่งทันที ให้อารมณ์แบบสปอร์ตดีมาก เมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัยและกดคันเร่ง แทบไม่น่าเชื่อว่ารถคันนี้มีเครื่องยนต์ขนาดแค่ 1.0 ลิตรหรือมีแค่ 3 สูบเท่านั้น เพราะเครื่องทำงานได้เงียบ ลื่นไหลและขับค่อนข้างสนุกมากกว่ารถในขนาดเครื่องยนต์เดียวกันเสียอีก สำหรับเรื่องของเสียงเครื่องยนต์ เฟียสต้าตัวใหม่เก็บเสียงได้ดี แม้จะมีให้ได้ยินพอรู้ว่าเสียงเข้าแต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะถ้าจะเอาแบบเงียบสนิทเลยคงเป็นคนนั่งรถได้ไม่มีความสุขแน่ๆ ส่วนเกียร์แบบพาวเวอร์ชิฟท์นั้น ก็มาพร้อมกับ Select Shift ให้เปลี่ยนได้ตามใจ แน่นอนว่า นี่ทำการขับรถยิ่งสนุกขึ้นไปอีก แม้จะมีอาการเปลี่ยนช้าแบบนิดหน่อยก็ตาม เมื่อลองเหยียบคันเร่งแบบกดน้ำหนักจากเบาๆ และกดยาวๆ ไปเรื่อย รถเร่งกำลังเครื่องยนต์ได้ดี ราบรื่นไม่มีสะดุดให้รู้สึกเลยทีเดียว (ถ้าไม่จับผิดกันเกินไปนัก)
จากถนนในเมืองก็เปลี่ยนเข้ามาเป็นถนนสายรองและเส้นทางขึ้นไปยังอ.แม่ริม มีเส้นทางคดเคี้ยวพอให้ได้ลองระบบพวงมาลัยแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EPAS) ซึ่งถือว่าตอบสนองได้ดีพอควร น่าประทับใจในระดับหนึ่ง มีความสัมพันธ์กับระบบช่วงล่างที่ยึดเกาะถนนได้มั่นใจทีเดียว ซึ่งทางฟอร์ดได้มีการปรับจูนระบบช่วงล่างให้เน้นความสบายในการเดินทางมากขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกว่าขับสนุกอยู่ดีผ่านโช้คอัพของรถที่ผ่านการออกแบบมารองรับความควบคุมรถและเสริมแป้นยางกันกระแทก (Bump Stops) แบบใหม่บริเวณด้านหน้าซึ่งไม่เหมือนกับลูกยางกันกระแทกในรถคันอื่นๆ
โดยภาพรวมของการขับขี่ การเร่งเครื่องยนต์ที่ให้อารมณ์แบบรถสปอร์ตถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย เมื่อเรากำลังขับรถที่มีเครื่องยนต์ที่เล็ก แน่นอนว่าต่อไปนี้เราไม่ควรตัดสินพละกำลังที่ขนาดของเครื่องยนต์กันเพียงอย่างเดียว เพราะว่าเทคโนโลยีทุกวันนี้มันสามารถทำให้เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กแต่รีดกำลังได้สูง ซึ่งเฟียสต้าคันนี้ทำให้ผมปรับเปลี่ยนทัศนคติไปจากเดิมได้เป็นอย่างดี มีช่วงที่ต้องขับรถขึ้นเขาซึ่งแม้จะไม่ลาดชันมาก แต่ก็รู้ว่าถ้าหากทางมันมีความลาดชันกว่านี้ เครื่องยนต์อีโค่บู๊สต์ก็น่าจะเอาอยู่ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ส่วนช่วงลงเขา การควบคุมพวงมาลัยก็มีความเหนียวแน่นและช่วงล่างที่ทำงานได้สอดคล้องกับการบังคับได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันนั้นอยู่ที่ 18-19 กิโลเมตรต่อลิตร
การนำเอาเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ที่มีขนาดเล็กมาใช้แทนทีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ นับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การทำงานของฟอร์ด ที่วางแผนไว้ว่าจะต้องเป็นผู้นำในเรื่องการประหยัดน้ำมันในทุกเซกเม้นต์ที่บริษัทลงแข่งขัน ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีของฟอร์ดก็สอดคล้องกับการพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่พยายามลดขนาดอุปกรณ์ลง แต่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
บททดสอบครั้งนี้โดยรวมบอกได้เลยว่า Ford Fiesta EcoBoost 1.0 สามารถให้กำลังเครื่องยนต์ได้เทียบเท่ากับเครื่องขนาด 1.6 เลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลหรือสงสัยว่า รถเร่งขึ้นมั้ย หรือ เครื่องเล็กแบบนี้จะขับสนุกเหรอ? เพราะคำถามเหล่านี้มันไม่สามารถตัดสินเจ้าฟอร์ดอีโค่บู๊สต์ได้เลย แต่กลับทำให้มันยิ่งอยากจะแสดงประสิทธิภาพและสมรรถนะให้ทุกคนได้เห็นมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม้จุดด้อยของมันจะมีแต่ถ้าคุณไม่ใช่นักแข่งบนถนนหลวง การเร่งเครื่อง เร่งแซงต่างๆ ก็ถือว่าทำได้ดีพอจะให้คุณได้เดินทางอย่างสะดวกปลอดภัยบนท้องถนนได้อย่างมีอิสระและเต็มที่กับการขับขี่อย่างแน่นอน
สำหรับราคาค่าตัวตอนนี้ฟอร์ดขอปิดไว้ก่อน ซึ่งก็คงจะรู้กันในงาน Motor Expo ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่เชื่อว่าระดับราคาจะแพงกว่าฟอร์ด เฟียสต้าตัวเก่าที่เป็นเครื่อง 1.5 ลิตรอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ชื่นชอบรถเล็ก แต่อยากได้กำลังรถที่แรง ผมแนะนำว่า Ford Fiesta EcoBoost 1.0 ควรเป็นหนึ่งในรถที่คุณต้องได้ไปทดลองขับเสียก่อน แล้วจะรู้ว่าจากนี้ไป อย่าตัดสินพละกำลังของเครื่องยนต์กันที่ขนาดของเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว … อันนี้พูดเลย!!!
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ford.co.th