Home data &Analytics โตโยต้าเล็งปรับลดเป้าเดือนเม.ย.

โตโยต้าเล็งปรับลดเป้าเดือนเม.ย.

ตลาดรถไม่ฟื้น หลัง 2 เดือนแรก ยอดร่วงต่อเนื่อง  ยักษ์ใหญ่โตโยต้าคาดลดเป้า ขายยันการผลิตไม่มีปัญหา หลังสร้างสมดุลตลาดในประเทศ-ส่งออก

นายเคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประทเศไทย จำกัด เปิดเผยว่าตลาดรถยนต์ช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา พบว่าไม่ดีดังที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยมียอดขายเฉลี่ยประมาณ 6.3 หมื่นคัน/เดือน
ดังนั้นหากนำตัวเลขดังกล่าวเป็นค่าเฉลี่ยทุกเดือน เท่ากับปีนี้ ยอดขายจะต่ำกว่า 9.2 แสนคัน ดังที่โตโยต้าเคยคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
“ยอดขายรถยนต์ยังไม่ดี เราจะดูทิศทางอีกระยะ โดยคาดว่าเมื่อสิ้นสุดเดือน เม.ย. จะมาประเมินกันอีกรอบ เกี่ยวกับตลาดรถยนต์ และเป้าหมายของโตโยต้าเอง ซึ่งหากมีความจำเป็นเราก็จะต้องปรับลดเป้าหมาย”
ทั้งนี้ต้นปีที่ผ่านมา โตโยต้า ตั้งเป้ายอดขายไว้ทั้งสิ้น 3.3 แสนคันไฟแนนซ์เข้ม ยอดรีเจคท์พุ่ง

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กล่าวว่า ปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มาจากทั้งเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การสิ้นสุดโครงการรถคันแรก รวมถึงความเข้มงวดของสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ ทำให้ส่งผลกระทบต่อตัวเลขยอดขาย
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ในด้านผู้บริโภค พบว่ายังมีความต้องการซื้อรถอยู่มาก แต่ศักยภาพในการกู้ลดลง ส่งผลให้มียอดปฎิเสธสินเชื่อเพิ่มมากขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นปัจจัยลบที่สำคัญต่อตลาดรถยนต์
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลง ยังไม่มีผลต่อตลาดรถยนต์ในทันที และก็เชื่อว่าจะไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

ส่งออกช่วยภาคการผลิต
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า แม้ตลาดรถยนต์จะยังคงมีทิศทางถดถดอย แต่ในด้านการผลิตของโตโยต้า ยังอยู่ในภาวะปกติ ทั้ง 3 โรงงาน คือ โรงงานพระประแดง สมุทรปราการ โรงงานเกตเวย์ ฉะเชิงเทรา และโรงงานบ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา รวมถึงการทำงานของผู้ผลิตชิ้นส่วนก็ยังปกติด้วยเช่นกัน ซึ่งยังมีการทำตลาดล่วงเวลา หรือ โอทีในบางช่วงอีกด้วย
“แม้ตลาดในประเทศจะไม่ดี แต่เราพยายามรักษาตลาดส่งออกซึ่งทำให้ภาคการผลิตไม่มีปัญหา และที่ผ่านมา การส่งออกของโตโยต้าก็ยังเติบโต”
นายทานาดะกล่าวว่า การผลิตไม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยเฉพาะตลาดปิกอัพ ที่ปัจจุบัน โตโยต้ามีสัดส่วนการทำตลาดส่งออก 60% ของการผลิตทั้งหมด และขายในประเทศ 40% ดังนั้นแม้ว่าตลาดในประเทศจะชะลอตัว แต่การส่งออกก็สามารถช่วยพยุงได้
“แต่ตลาดรถเก๋ง ยอมรับว่าอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง เพราะขณะนี้เราส่งออก 20% ของการผลิตทั้งหมด ที่เหลือ 80% เป็นการขายในประเทศ ดังนั้นเมื่อตลาดหดตัว ก็ทำให้การผลิตลดลงบ้าง อย่างไรก็ตามเราจะพยายามเพิ่มการส่งออกให้มากขึ้น และโตโยต้ายืนยันว่าขณะนี้ทั้งพนักงานประจำ หรือพนักงานรับช่วงการผลิต ยังคงทำงานปกติ และมีโอทีด้วย”[fblike]

Previous article2015 Honda PCX150
Next articleแม็คซัส เปิดตัวV80 แกรนด์คอมบิ