แอร์นั้น ก็คือเครื่องที่มีส่วนประกอบหลายๆอย่างเอามาทำงานร่วมกันเพื่อที่จะดูดเอาอากาศร้อนในห้องโดยสารออกไปทิ้งข้างนอก
และในขณะเดียวกันก็จะมีพัดลมหรือโบเออร์เป่าเอาความเย็นที่น้ำยาแอร์ทำให้เกิดขึ้นรอบๆคอยล์เย็น (Evaporator) ออกไปทดแทนอากาศร้อนที่ถูกดูดเอาไปทิ้งที่คอยล์ร้อน (Condenser)
อากาศในห้องโดยสารทั้งความร้อนและความชื้นจะถูกน้ำยาทำความเย็นที่ไหลผ่านอยู่ในคอยล์เย็นดูดเข้ามาที่คอยล์เย็นความสกปรกของอากาศความชื้นในอากาศก็จะเกาะติดอยู่กับตัวคอยล์เย็น ทำให้เกิดการอุดตันผุกร่อนในตัวของคอยล์เย็น
ว่ากันว่า ความชื้นและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ตามคอยล์เย็นนั้นเป็นบ่อเกิดของเชื้อราและแบคทีเรียหลายชนิดเมื่อพัดลมแอร์ทำงาน เพื่อที่จะเป่าความเย็นให้กระจายไปทั่วห้องโดยสารก็จะเป่าเอาสิ่งสกปรกพร้อมเชื้อราเข้ามาในห้องโดยสาร วนเวียนกันอยู่อย่างนี้
การแก้ใขดูจะทำได้ยากในรถยนต์หลายยี่ห้อพยามหา จุดติดตั้งกรองอากาศก่อนเข้าห้องโดยสารหรือกรองแอร์ก่อนเข้าสู่ระบบหมุนเวียนของระบบทำความเย็นพร้อมๆกับบางยี่ห้อติดตั้งกรองพิเศษที่จะดูดซับเอากลิ่นและอณูเล็กๆของสิ่งแปลกปลอมแต่ก็ทำได้ไม่ทั้งหมด
ในลักษณะเช่นนี้การที่จะทำให้อากาศในห้องโดยสารเย็นสบายและสะอาดบริสุทธิ์ ก่อนๆนี้หรือแม้แต่ในปัจจุบันคนที่เป็นห่วงเป็นใยในสุขภาพของตนเองก็มักจะแก้ไขโดยการล้างตู้แอร์ก็หมายถึงถอดเอาคอยล์เย็นออกมาล้างทำความสะอาด
การล้างตู้แอร์หรือคอยล์เย็นเป็นงานใหญ่ใช้เวลานานและถ้าไปพบกับช่างที่ขาดความรับผิดชอบก็จะต้องมีงานให้บานปลายจ่ายโน่นจ่ายนี่กันอีกหลายยก อย่างไรก็ตาม การล้างตู้แอร์ก็ดูจะเป็นวิธีการเดียวที่จะทำให้คอยล์เย็นสะอาดเหมือนใหม่ แต่สิ่งที่ขาดไปใหการล้างตู้แอร์ก็คือ การป้องกันการเกิดเชื้อราทั้งหลายแหล่อันจะเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
ทางเลือกที่สองของการล้างตู้แอร์ก็คือการล้างโดยเครื่องมือและสารชะล้างโดยไม่ต้องรื้อหรือถอดตู้แอร์ เท่าที่ผมเห็นมาก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลพอสมควร แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างสูงใกล้เคียงกับการล้างด้วยการถอดรื้อแต่ใช้เวลาที่ไม่นานพอที่จะนั่งรอรับได้
แต่วิธีนี้ก็เช่นเดียวกับการถอดล้างคือสามารถที่จะกำจัดสิ่งสกปรกทั้งหลายแหล่รวมทั้งเชื้อราให้หมดไปแต่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราจากความชื้นที่จะค่อยๆเริ่มสะสมตามวัฎจักร ของระบบการทำความเย็นในรถยนต์เกิดขึ้นได้อีก
และทางเลือสุดท้ายก็คือน้ำยาทำความสะอาดชะล้างสิ่งสกปรก กำจัดและป้องกันเชื้อราในคราวเดียวกัน วิธีการก็ง่ายดายสามารถที่จะทำได้ด้วยตนเองใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็เสร็จสิ้นขบวนการอากาศในรถก็สะอาดสดชื่นและบริสุทธ์ไปอีกประมาณหนึ่งปี
น้ำยาชนิดนี้บรรจุอยู่ในกระป๋องเป็นสเปรย์ฉีดพ่นเข้าไปที่คอยล์เย็น
ทั้งสามอย่างสามประการแล้วแต่ท่านผู้อ่านจะเลือกใช้แบบใดในความเห็นของผมแล้วถ้าเป็นรถเก่าที่ใช้มาแล้วประมาณห้าปีควรจะใช้แบบที่สองและที่สามและถ้าใช้รถมาเกินกว่าห้าปีแล้วไม่เคยเปลี่ยนหรือถอดล้างตู้แอร์มาก่อนก็ควรจะใช้แบบที่หนึ่งกับแบบที่สามสำหรับรถใหม่ไม่เกินสามปีใช้แบบที่สามหรือเพียงสเปรย์ฉีดก็น่าจะเอาได้อยู่และฉีดซ้ำทุกๆหกเดือนก็จะทำให้อายุของคอยล์เย็นยืดยาวขึ้นแต่สิ่งสำคัญสุขภาพของผู้ขับและผู้โดยสารในขณะที่นั่งอยู่ในรถเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจและภูมิแพ้น่าจะช่วยได้มาก
