เอ็มจี5(MG5) รถเก๋งตัวใหม่ล่าสุดของเอ็มจี ที่ออกสู่ตลาดเมื่อไม่นานมากนี้และเราได้ทดลองขับรถ ซับคอมแพ็คคาร์ (B Secment) ที่มีขนาดตัวถังใหญ่กว่ารถในตลาดทั่วไป เอ็มจี5 มีโครงสร้างเป็นเก๋ง4 ประตูก็จริง แต่ออกแบบให้ภาพลักษณ์ เป็นเหมือนรถคูเป้ คือเส้นท้ายลาดยาว ไปโยงเสาซี ( เอ็มจีขายแบบ 5 ในจีนเรียกว่า เอ็มจี GT )
นอกจากไซด์รถที่ใหญ่โตแล้ว โปรดักซ์ ไฮไลท์คือเครื่องยนต์ เทอร์โบ(TURBO) ขนาด 1.5 ลิตรให้กำลัง 129 แรงม้า ถ้าดูราคาแล้ว คุณสามารถสนุกกับ รถเบนซินเทอร์โบ ได้ง่ายๆ เลยทีเดียว เส้นทางการทดสอบ ระหว่างจังหวัดสุราษฏร์ธานี – จังหวัดภูเก็ต (สื่อกรุ๊ป1จาก 3 กรุ๊ป) ระยะการขับขี่ ประมาณ 250 กิโลเมตร และทำให้เราเห็นความจริงว่า เอ็มจี ทำได้ดีในแง่ของสมรรถนะเลยทีเดียว
มาดูขุมพลังกันก่อน ในเอ็มจี5 วางเครื่องยนต์เบนซิน 2 บล็อคต่างกัน คือ เครื่องยนต์ TURBO 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์กว้าง 2,000-4,400 รอบต่อนาที
อีก บล็อคหนึ่งเป็นเครื่อง เบนซินคือรุ่น 1.5 ลิตร กำลังสูงสุดที่ 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาทีทั้ง 2 เครื่องยนต์ ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ย้ำว่าเครื่องคนล่ะบล็อค สมรรถนะต่างกันมาก
เช่นเดียวกับเกียร์ แม้จะเป็น เกียร์อัตโนมัติแต่ ให้ระดับอัตราการทดต่างกันโดยเกียร์ 6 สปีด วางในรุ่น TURBO 1.5 ลิตร และเกียร์แบบ 4 สปีด วางในรุ่น 1.5 ลิตรตัวธรรมดา
ระบบกันสะเทือนของ MG5 สำหรับเทอร์โบ ขี่แล้วมั่นใจ กว่าตัวไม่มีเทอร์โบ อย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าโครงสร้างจะเป็นแบบเดียวกันคือ ช่วงล่าง European Tuning Suspension มาตรฐานสูงสุดแบบยุโรป
ด้านหน้าแบบ Ultra-Rigid MacPherson Strut ด้านหลังแบบ H-Type Torsion Beam คานขวางแบบ U-Shape
ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบ LDC (Low Dragging Calipers)
ในเรื่องสมรรถนะ นั้นตัวเทอร์โบ ต้องบอกว่าทำได้ดี ลงตัวมากกว่ารุ่นอื่นๆ ของเอ็มจีที่เคยมีมา ในขณะที่เอ็มจี5แบบ มาตรฐานไม่มีเทอร์โบ ดูจะด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเพราะว่า การควบคุม การตอบสนอง ความแม่นยำ และความ
ในส่วนอื่นๆข้อดีของ เอ็มจี คือ อัดแน่นระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยมามากมาย เช่น 9 Integrated Active Safety Systems ที่เหนือกว่ารถซับคอมแพ็คคาร์รุ่นอื่นๆ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือกว่า ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับขี่อาทิระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS – Hill Start Assist System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS – Traction Control System) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน (ABS – Anti-lock Braking System) พร้อมระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD – Electronic Brake Force Distribution) ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR – Motor control Slide Retainer) ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC – Curve Brake Control) และ ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (ITPMS – Indirect Tire Pressure Monitor System)
นอกจากนี้ ยังเพิ่มความมั่นใจกับระบบเสริมแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBA – Electronic Brake Assist) และ ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS – Stability Control System) ซึ่งถือได้ว่าครบครันในเรื่องความปลอดภัยมากที่สุดอีกด้วย
นอกจากนี้ เอ็มจี5 เป็นรถยนต์รุ่นที่สองของ เอ็มจี ที่ติดตั้งระบบ inkaNet เทคโนโลยีการสื่อสารอัจฉริยะระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ เอ็มจี ที่ทำงานบนเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย inkaNet ประกอบด้วย 7 ฟังก์ชั่นหลัก ได้แก่ ฟังก์ชั่นแจ้งเตือนความผิดปกติ เมื่อมีการเคลื่อนหรือสตาร์ทรถยนต์ ฟังก์ชั่นระบบนำทาง ผ่านทาง Google Map และช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามตำแหน่งของรถ และข้อมูลสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ ฟังก์ชั่นระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยกำหนดขอบเขตรัศมีการขับรถยนต์ ฟังก์ชั่นแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในการขับรถ เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยทั้งแบบรายสัปดาห์และแบบรายเดือน ฟังก์ชั่นระบบเลขาฯ ส่วนตัว ให้คุณติดต่อ MG CALL CENTRE เพียงปลายนิ้วสัมผัส และ ฟังก์ชั่นวางแผนการเดินทาง พิเศษสำหรับลูกค้า เอ็มจี5 จะได้รับสิทธิพิเศษสามารถเชื่อมต่อระบบ inkaNet ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือฟรี นาน 5 ปี
มาดูราคาของเอ็มจี5
มี 4 รุ่นย่อย ให้เลือกคือ
1.5 ลิตร รุ่น D 649,000 บาท
1.5 ลิตร รุ่น X Sunroof 699,000 บาท
TURBO 1.5 ลิตร รุ่น D 719,000 บาท
TURBO 1.5 ลิตร รุ่น X Sunroof 759,000 บาท
ถ้ามีตัวเลือกเพียงตัวเดียว คำตอบคงไม่พ้นเทอร์โบ อย่างไม่ต้องสงสัย