“บุรีรัมย์”ที่เจริญเติบโตอย่างผิดหูผิดตา และ ในช่วงนี้ถนนทุกสายมุ่งหน้าไปบุรีรัมย์ หลังจากสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เปิดดำเนินการจากการแจ้งเกิดของสนามแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต “(CIC) ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต(BRIC) สนามแข่งขันระดับโลก นักลงทุนคนสำคัญเป็น อดีตนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ก้าวไปสู่การเมืองระดับชาติก่อนจะหันหลังให้สิ่งเหล่านี้ เพื่อพัฒนาบ้านเกิด จนสำเร็จโด่งดังไปทั่วโลก” เนวิน ชิดชอบ “ความสำเร็จไม่ได้มาเพราะโชคช่วยหรือใช้ต้นทุนฟรีๆ จากทรัพยากรที่มีอยู่ ต่อไปนี้คือ บทสัมภาษณ์พิเศษ ถึงเบื้องหลังการเปลี่ยนเมืองบุรีรัมย์และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
บุรีรัมย์มันพลิกภาพขึ้นมาได้อย่างไร
คำว่าสแตนดาร์ดมันสำคัญที่สุด สำคัญกว่าทุกเรื่องมันต้องปรับตัวเองไปทุกคนต้องเริ่มการแก้ปัญหาต้องให้เป็นมาตรฐานโลก ไม่ใช่เป็นไทยแลนด์ สแตนดาร์ด อย่างทุกวันนี้ซึ่งมันก็วนกลับมาปัญหาเดิมไม่ก้าวข้ามวังวนเสียทีสนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต(CIC) เป็นเซอร์กิตเดียวที่อยู่กลางเมืองแล้วไม่มีปัญหาเรื่องท้องถิ่น

“นอยซ์ พอลลูชั่น”(Noise Pollution)” ไม่มีปัญหาเพราะทุกคนรู้ว่าถ้าเมื่อไรเสียงดังทุกคนได้ตังค์ ยิ่งเสียงดังเท่าไรยิ่งมีคนเอาสตางค์มาใช้ที่นี่มากขึ้นเท่านั้น โอกาสที่ประชาชนชาวบุรีรัมย์จะหาสตางค์จากคนต่างถิ่นกับธุรกิจของเขาก็มากขึ้นเท่านั้น มันเป็นวิธีจูนความคิดของคนเมืองนี้ ที่ผ่านมาเราเป็นเมืองผ่านตลอดไม่เคยมีนักท่องเที่ยวมาใช้สตางค์ ไม่เคยค้าขายได้ดีแบบนี้มันต้องเปลี่ยนวิธีคิดให้กับคนทั้งจังหวัด ผมจัดไบค์ปาร์ตี้ บิ๊กไบค์มาจากทั่วประเทศใครๆก็คิดว่า ไบค์ปาร์ตี้ที่เคยจัดในประเทศไทย1,000กว่าคันก็เยอะแล้ว ผมจัดก็ตั้งเป้าว่า 3,000 มา จริงๆ5,000 คันโรงแรมไม่มีที่พักร้านอาหารเต็มหมดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ 2 วัน แต่ทุกคนแฮปปี้
“เราก็รอฟังเสียงสะท้อนจากคนที่นี่ว่า หลังจัดไปแล้วจะมีเสียงบ่นไหมของคนในชุมชนนี้ไหมแต่ปรากฏว่า ทุกคนบอก เสียดาย เตรียมของขายไม่พอ มันเป็นความเสียดายไป” ผมสอนให้เขาได้รับรู้ว่านี่คือ “นอยซ์ มันนี่“(Noise Money) นี่คือทฤษฎีใหม่น่ะ ทุกคนก็โอเค เวลคัม สำหรับนอยซ์ทั้งหลายแหล่ ที่จะเอาตังค์มาใช้ที่นี่ มันก็เป็นแบบมิติทางความคิด

บุรีรัมย์กับสุพรรณบุรีต่างไหม
ถ้าพูดว่าผมแตกต่างจากคนอื่นตรงไหนแตกต่างเพราะผมทำทุกอย่าง เรียกทุกคนเข้ามา ร่วมกัน เดินไปด้วยกันและได้ประโยชน์ร่วมกัน วินวินไปด้วยกันสูงสุดที่ทำก็คือกำไรรายได้ที่จะเข้ามา แต่ละที่ผมทำร้อยเปอร์เซนต์ เราคิดว่าเราจะได้ไม่เกิน 40 นอกนั้นต้องเป็นเรื่องของส่วนรวมได้ คนในสังคมได้ มันถึงจะอยู่กันได้ อย่างท่านบรรหาร(บรรหาร ศิลปอาชา ผู้แทนจังหวัดสุพรรณบุรี) ท่านทำของท่านคนเดียว คนอื่นไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วแต่ท่านอยากจะทำอะไรก็เรื่องของท่าน มันก็เลย ดูเหมือนจะโต แต่มันไม่โตไง มันเดินไม่ได้ เพราะมันไม่มีแรงซัพพอร์ท แล้วก็ในช่วง คสช.อยู่เนี่ย คงในสองปีเนี่ย จะเห็นสุพรรณบุรี ก็จะเงียบ เพราะไม่มีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาไปคอยจัดอีเวนต์ (หัวเราะ) มันก็ดำดิ่งลง
ทรัพยากรที่นี่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
แต่ก่อนที่ดินที่นี่ไร่ล่ะแสน เดี๋ยวนี้ตรงข้ามดูคาติ (ดูคาติ อยู่ระหว่างสร้าวโชว์รูมใหม่ บนถนนหลักขาเข้าเมือง-กองกบ.) 2 ไร่ 24 ล้าน ตอนนี้ที่ดินแพงขึ้น รวยหมดแล้ว มูลค่าเพิ่มของทรัพสินที่มีเพิ่มขึ้นเป็น100 เปอร์เซนต์ สำหรับราคาประเมินของที่ดิน ราคาประเมินยังอยู่ที่ไร่ล่ะ 1-1.5 ล้านไม่เกิน 2 ล้าน แต่จริงๆราคาไปถึง 10 ล้านแล้ว ถนนบายพาสด้านหลังไร่ละ 8 ล้าน ทุกคน เดี๋ยวนี้ขายที่ไปส่วนหนึ่ง มีเงินเก็บ ธุรกิจรันได้ มันวินวินหมดทุกคนมันถึงไปได้อย่างเรื่องที่พักที่นี่ตอนนี้ เต็มหมดแล้ว ก็ต้องหาวิธีแก้ไขอาจทำเป็นเต้นท์ส่วนตัว จัดหาห้องน้ำให้ หรืออาจแก้ไขให้บ้านที่มีห้องว่าง รับคนเข้าไปพัก แบบโฮมสเตย์แค่สองวัน เท่านี้ก็ได้เงินกันบ้านละ500บาทแล้ว ก็เป็นการวินวิน ทั้งสองฝ่าย ทิศทางตรงนี้เรามีวิธีคิดกลับข้างกัน วันนี้ไม่มีใครมีปัญหา เพราะทุกคนในเมืองนี้ รวยกันหมดแล้ว เมื่อที่แล้ว จีดีพี ของบุรีรัมย์ขึ้น 32% แรงมากวันที่มอเตอร์สปอร์ตมา(ขณะสัมภาษณ์การแข่งขันเรซแรกของCIC ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ-กองบก.) มันเกิน100% แน่นอน
บุรีรัมย์โมเดลเกิดจากอะไร
ผมเดินทางไปเป็นแขก ต่างประเทศตอนรับราชการ เห็นพวกอาหรับสร้างเมือง ก็ไปว่าเขาโง่ เราคิดผิด เขาวิชั่นไกลกว่าเรา 50 ปี เขาคิดว่าในอนาคตเมื่อน้ำมันหมด แล้วลูกหลานจะอยู่อย่างไร เขาสร้างใหม่หมดเลย สร้างสกีโดม กลางทะเลทราย เอาไว้ให้คนไปเที่ยว มันแปลกไหม คุณไปเล่นเจ็ตสกีในทะเลทราย ครีเอทีฟมาก ดูจริงๆ เขาฉลาดกว่าเยอะ เพราะเอาเงินไปสร้างเพื่ออนาคต บ้านเราไม่มีการเตรียมการเพื่ออนาคต ยกตัวอย่าง จังหวัดเชียงใหม่ ถ้ารักษาทรัพยากรให้อากาศร่มรื่นเย็นสบายไม่ได้ ถ้ามีแต่ควันไฟ มลพิษคนก็ไม่ไป เพราะไม่มีทรัพยากรแล้ว เขาจะอยู่ได้อย่างไร เหมือนกับทะเล ถ้ารักษาสภาพแวดล้อมไม่ได้ น้ำทะเลสกปรก ชายหาดสกปรก ใครจะไปเที่ยว “ลองดูที่อเมริกา รัฐแต่ละรัฐของเขา สร้างตัวของตัวเองไม่ต้องพึ่งพาใคร มีจุดขายของตัวเอง เป็นวิธีคิดรุ่นใหม่ บุรีรัมย์โมเดล คือทุกคนต้องดูว่าวิธีการพัฒนาเมือง หาโครงสร้างของตัวเอง”
อะไรคือกุญแจของความสำเร็จโมเดลนี้
ผมสอนเด็กๆ ทุกคนว่า รีซอร์ส อีส ลิมิเต็ด Resource is Limited (ทรัพยากรมีจำกัด)แต่ ครีเอทีฟ อีส อันลิมิเต็ด Creativity is Unlimited(ความคิดสร้างสรรค์ไม่มีขีดจำกัด) อย่ามองเรื่องมูลค่าทรัพย์สินให้มองว่าครีเอทีฟอะไรออกมาบ้างเป็นสูตรของโลกในยุคอนาคต ผมอาจหาญชาญชัยลงทุนขนาดนี้ทำไมกล้าทำเสี่ยงไหมวันนี้ผมต้องการให้ที่นี่เป็นเดสติเนชั่น (destination )หนึ่งของคนไทยเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาพัก เราตั้งเป้าทำฟุตบอล มอเตอร์สปอร์ต สนามยิงปืน เราจะทำสปอร์ตเอดเวนเจอร์ ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน รองรับผู้ที่ชอบ เพราะไลฟ์สไตล์คนทุกวันนี้ ต้องการเอนเตอร์เทนตัวเอง ทำที่นี่ให้เป็นสปอร์ตซิตี้ ประเทศไทย มี77 จังหวัด ที่ทะเลาะกันเรื่องจังหวัดที่ 78 ลองคิดว่าได้อะไรบ้างสำหรับคนที่นั่น วันนี้มันไม่เกี่ยวกับขอบเขตดินแดนแล้ว ไปหัวหิน มีใครไปประจวบคีรีขันธ์บ้าง ไม่มีใครนึกถึงไปเขาใหญ่ มีใครบอกมาโคราชไหม นี่คือเดสติเนชั่นของโลกปัจจุบัน และโลกอนาคต จากนี้ไปไม่เกิน 5 ปี เมืองไทยจะเหลือเพียง 10 เดสติเนชั่น ใครสร้างให้เป็นเมืองเดสติเนชั่นได้ คนนั้นรอดนี่คือสิ่งที่เราคิดและเราตัดสินใจทำและวันหนึ่ง ความเป็นเดสติเนชั่น พอประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC ) เปิด ลาว เวียดนาม กัมพูชา ต้องเสร็จผมเพราะ จากช่องสะงำ เดินทาง 1 ชั่วโมง ช่องบก ชั่วโมงเดียว จากเวียงจันทน์ หลวงพระบาง ข้ามทางอุบลราชธานี เดินทาง 3 ชม. ที่ลาวภาษีรถยนต์ถูกกว่าไทยครึ่งหนึ่ง ซูเปอรไบค์มีเยอะแต่ไม่มีสนามแข่ง
แน่ใจอย่างไรว่าคนต้องมาบุรีรัมย์
คนรุ่นพวกเรานี่แหละอายุ 45 ลงมา ต้องยอมรับว่า 5 ปีที่ผ่านมา สังคมไทยเปลี่ยนจากสังคมแฟมิลี่ เมื่อก่อนพวกเราอยู่เป็นแบบครอบครัว ไปไหนทีก็ต้องไปกันทั้งครอบครัว เดี๋ยวนี้ทุกคนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมอยู่คอนโด อพาตเมนท์ สังคมมันเปลี่ยนไป เหมือนกันในสังคมใหญ่ๆ ที่มันเปลี่ยนไป ทำให้ทุกคนมองแต่เรื่องของตัวเอง มองเรื่องเอนเตอร์เทนตัวเองช่วงวีคเอนด์ ว่าจะไปที่ไหน อย่างไรเราจึงย้อนกลับมาคิดว่า คนจะไปเที่ยวที่ไหน ผมคิดว่าคนเลือกไป 2 อย่าง คือ 1 ไปที่ๆมี รีซอร์ส (Resources) ที่จะช่วยให้เราพักผ่อน เช่นภูเขา ทะเล เช่น พัทยา ชะอำ ภูเก็ตถ้าไม่ใช่ก็ต้องข้อ 2 คือ ที่ๆ มันมีอีเวนต์ มีอะไรน่าสนใจให้ไปดูบ้าง
“ในยามที่บ้านผมไม่มีทรัพยากร(resources) คนบุรีรัมย์ไม่โชคดีเหมือนคนหัวหิน ภูเก็ต”
เราก็ต้องสร้างเมืองให้มันมีอีเวนต์แต่ที่ผ่านมา คนไปที่ไหนก็ไปปีละวันเพราะถ้ามา บุรีรัมย์ ก็มาปีหนึ่ง ครั้งเดียว ไปเชียงคานก็ปีละหน แต่ถ้าเราสามารถสร้างอีเวนต์ให้มากที่สุดเมื่อคนคิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหน มาที่เราเพราะเรามีอีเวนต์ให้ เป้าหมายคือ บุรีรัมย์ต้องเป็นเมือง 1 ใน 5 ของประเทศไทย ที่คนมาเมืองไทยแล้วอยากมามากที่สุด ตั้งเป้าให้เป็นเดสติเนชั่นคุณมาเมืองนี้เมื่อไรไม่มีอาทิตย์ไหนที่จะไม่มีอีเวนต์
สปอร์ตเอดเวนเจอร์เริ่มเมื่อไร
พอจบมอเตอร์สปอร์ต หลังเมษายน ปี58จะเริ่มต้น ทำกับอุทยาน วิธีคิดตอนนี้ให้คนมาดีไซน์ ให้เป็นแอดเวนเจอร์สปอร์ต สำหรับคนอาเชียนคนสร้างก็ถามว่าจะไปดูได้ที่ไหน ก็ให้ไปดูที่เรดบูล เป็นสปอนเซอร์ เอาพวกนั้นมาใส่ แต่ต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
อีเวนท์เตรียมไว้มากขนาดไหน
เมืองบุรีรัมย์พอเปิดสนาม มีแข่งแดรกซ์ (การแข่งรถทางตรง)ทุกอาทิตย์ มีเรซอย่างร้อย 30 อีเวนต์ในหนึ่งปี มีแดรกซ์ 52 เรซ เอเซียนทัวร์ริ่งคาร์ ตั้งใจว่าจะทำสำหรับรถยนต์ ระดับเวิลด์ซีรี่ส์ 3 งาน มอเตอร์ไซค์ 3 งาน มอเตอร์ครอส 2 งานก็ 8อีเวนต์แล้ว อีเวนต์ของสปอร์ตเซอร์อีกสนามจะถูกใช้ 300 วันต่อปี[fblike]
Click ที่นี่ อ่านต่อรายงานตอนจบ