วิลเลียมแกรนท์แอนด์ซันส์ คือผู้ดำเนินธุรกิจการกลั่นเครื่องดื่มในรูปแบบครอบครัว มีฐานการดำเนินงานในสหราชอาณาจักร ก่อตั้งโดย “วิลเลียม แกรนท์” เมื่อปี 1886 ปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มสปิริตชั้นนำแห่งนี้บริหารงานโดยทายาทรุ่นที่5 และเป็นผู้ผลิตวิสกี้แบรนด์ชั้นนำของโลกหลายแบรนด์ รวมถึง “เกลนฟิดิค ซิงเกิลมอลต์”ยอดนิยมระดับโลก, เดอะ บัลเวนี ซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่ผลิตด้วยแรงงานคนทั้งหมด, และ แกรนท์ เบลนเดด สก็อตช์วิสกี้ วิสกี้ผสมที่ใหญ่เป็นอันดับ3ของโลก ตลอดจนแบรนด์เครื่องดื่มสปิริตชั้นนำ อาทิ เฮนดริกส์ จิน, เซเลอร์ เจอร์รี่ รัม, มิลาโกร เตกิล่า, เรก้า วอดก้า, โซเลอโน บลัดออเร้นจ์ ลิเคียวร์, มังค์กี้โชว์เดอร์ สก๊อตวิสกี้, และแบรนด์น้องใหม่อย่าง ทูลลามอร์ ดิว ไอริช วิสกี้
แมทธิว เฟอร์กุสสัน-สจ๊วร์ต แบรนด์แอมบาสเดอร์เกลนฟิดิค ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ล่าสุดเกลนฟิดิค ซิงเกิลมอลต์สก็อตช์วิสกี้ จัดกิจกรรมโร้ดโชว์ ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ชื่อ “เกลนฟิดิค เอ็กซพีเรียนซ์”(The Glenfiddich Experience) ณ ห้องสมุดเนียลสันเฮส์ ถนนสุรวงศ์ ซึ่งทีมงาน “A La Carte” ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมสัมผัสกิจกรรมดังกล่าว
สำหรับบรรยากาศของงานที่จัดเวทีงานเลี้ยงต้อนรับอย่างหรูหรา เปิดฉากด้วยการบรรเลงปี่สก็อตให้ซาบถึงราวกับยกเอาเมืองดัฟฟ์ทาวน์ แห่งศสก็อตแลนด์ บ้านเกิด
ของแบรนด์เกลนฟิดิคมาไว้ที่นี่ ในงานนี้ผู้ที่เป็นแขกยังได้พบกับ “แมทธิว เฟอร์กุสสัน-สจ๊วร์ต” แบรนด์แอมบาสเดอร์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ “เอียน มิลลาร์” แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก ตัวเ็ป็นๆ ภายในงานซึ่งเขารับหน้าที่ นำแขกวีไอพีเยี่ยมชมภายในงานอย่างใกล้ชิด
หลังจากลิ้มรส ลิ้มรสชาติสก็อตช์วิสกี้หลากหลายอายุของ เกลนฟิดิค ที่นำมาเสิร์ฟไม่อั้นแล้ว แขกของงานจะได้เข้าชมการจำลองโรงกลั่นเกลนฟิดิค โดยแบ่งเป็นกลุ่ม เพื่อทะยอยชมการสาทิตในขณะที่บรรดา แขกวีไอพีที่รออยู่ก็ยังอิ่มเอมกับวิสกี้ต่อไปอย่างหลากหลาย การเข้าขมการจำลองดโรงกลั่นได้ใช้เทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟเต็มรูปแบบ ราวกลับได้เดินทางสู่โลกเสมือนจริง
“เกลนฟิดิค เอ็กซพีเรียนซ์” ถือเป็นการนำเสนอกิจกรรมการลิ้มรสชาติสก็อตช์วิสกี้ชั้นเยี่ยมหลายรุ่น แขกภายในงานได้ดื่มด่ำกับรสสัมผัสชั้นสูงของซิงเกิลมอลต์ ทั้งเกลนฟิดิคอายุ 12 ปี ซึ่งให้กลิ่นหอมแนวผลไม้ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นลูกแพร์, เกลนฟิดิคอายุ 15 ปี กับกลิ่นหอมหวานของน้ำผึ้งดอกฮีธและวานิลลาฟัดจ์, และสัมผัสกับรสชาติและกลิ่นหอมอันเข้มข้นสไตล์แอปเปิลอบเครื่องเทศและกลิ่นไม้โอ้กที่หอมกรุ่นของเกลนฟิดิคอายุ 18 ปี
นอกจากนี้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับวิสกี้ของเกลนฟิดิค ทั้งสำหรับคอวิสกี้ตัวจริงและนักดื่มรุ่นใหม่ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทซิงเกิลมอลต์สก็อตช์วิสกี้ของเกลนฟิดิคที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์แห่งรสชาติจนคว้ารางวัลมากที่สุดในโลก และเป็นที่มาของฉายา “สุดยอดเครื่องดื่มแห่งขุนเขา”
แมทธิว เฟอร์กุสสัน-สจ๊วร์ต แบรนด์แอมบาสเดอร์เกลนฟิดิค ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า งาน ‘เกลนฟิดิค เอ็กซพีเรียนซ์’ ครั้งนี้ถือเป็นงานสำคัญครั้งแรกของแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจแบบครอบครัว ในการจัดงานโร้ดโชว์ระดับหรูเพื่อนักดื่มซิงเกิลมอลต์วิสกี้ในเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบ”
เช่นเดียวกับเชมเปญที่ต้องผลิตในแคว้นชองปาญในประเทศฝรั่งเศส สก็อตช์วิสกี้ของแท้ต้องมีอายุอย่างน้อย 3 ปีและต้องผลิตขึ้นในประเทศสก็อตแลนด์เท่านั้น ด้วยสภาพภูมิอากาศ ความสมบูรณ์ของพื้นดินและน้ำพุธรรมชาติคุณภาพดี จึงทำให้เกิดรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของวิสกี้อันเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก เกลนฟิดิคเป็นซิงเกิลมอลต์ที่บรรจุขวดในโรงกลั่นของตนเองและใช้น้ำจากน้ำพุ”รอบบี้ดูห์”ที่ใสสะอาดเพียงแหล่งเดียวตลอดการผลิต ผสานกับองค์ความรู้ที่สืบทอดกันมาในครอบครัวกว่าห้ารุ่น และประสบการณ์อันยาวนานของ ไบรอัน คินส์แมน มอลต์มาสเตอร์ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด ทำให้ได้วิสกี้ชั้นเลิศที่เปี่ยมด้วยรสสัมผัสและกลิ่นหอมอันเข้มข้น สื่อถึงทักษะและความเชี่ยวชาญของช่างชั้นครูผู้สร้างสรรค์เครื่องดื่มระดับตำนานแห่งโลก
สุดยอดของงานนี้ไฮไลท์อยู่ที่ในการชมการผลิตจำลอง จะมีให้เลือกลองลิ้มสุดยอดเกลนฟิดิค โดยทีมงานเืลือกตัวหนึ่งมาชิมได้แก่”เกลนฟิดิค อายุหมักบ่ม 40 ปี” ดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งเกลนฟิดิค 40 ปี คือซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่ผลิตจากระบบการหมักบ่มแบบใหม่ที่คิดค้นโดยเกลนฟิดิค โดยในแต่ละปี ไบรอัน คินสแมน มาสเตอร์ด้านการผลิตมอลต์วิสกี้ จะทำการคัดสรรเครื่องดื่มจากถังบ่มที่มีคุณลักษณะพิเศษด้วยตนเอง และทำการผสมส่วนผสมเหล่านั้นกับเครื่องดื่มเก่าแก่อายุ 40 ปีรุ่นก่อนที่หลงเหลืออยู่ในถัง กระบวนการรูปแบบใหม่นี้ทำให้ได้เครื่องดื่มซิงเกิลมอลต์สก็อตช์วิสกี้ที่มีรสชาติดีเยี่ยมในเรื่องความเข้มข้นที่เต็มเปี่ยมและความกลมกล่อมอันเยี่ยมยอด
เกลนฟิดิค 40 ปี ให้กลิ่นที่ซับซ้อนหลายชั้น ไล่เรียงตั้งแต่กลิ่นผลไม้แห้ง ดาร์กช็อกโกแลต เมล็ดกาแฟคั่ว และผลแบล็คเชอร์รี่สุก พร้อมกลิ่นแตะจมูกของไม้รมควัน เครื่องหนังเคลือบ และกานพลู มอบรสชาติที่นุ่มดุจใยไหมและรสสัมผัสแรกอันหรูหราแบบผลไม้แห้งเข้มข้น เค้กวันคริสต์มาส ผลอินทผลัม ลูกเกด และผลแอปเปิ้ลเคี่ยว หลังจากนั้นจะถูกแทนที่ด้วยรสชาติของผลโอ๊กแห้งที่นุ่มนนวล รสขมของช็อกโกแลตและกลิ่นของถ่านหินพีทที่ชัดเจน สิ่งเหล่านี้ทำให้เกลนฟิดิค 40 ปี มีรสติดปลายลิ้นที่ยาวนานและซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อ ประสบการณ์การดื่มวิสกี้อันน่าประทับใจ การได้รู้ถึงกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์อย่างเต็มอารมณ์ ได้”เกลนฟิดิค” มาเต็มอารมณ์ ก่อนงานรับของที่ระลึกกลับบ้าน เป็นเข็มกลัดสูทและเน็คไทยสวยหรู งานนี้สวมบทพนักงานโรงกลั่น ชิมยาวไปหน่อย คืนนี้ขับรถด้วยตนเอง สงสัยต้องพึ่ง”เรารักด่านตรวจกับเขาบ้าง”[fblike]
ขอขอบคุณ
เกลนฟิดิค : ตำนานแห่งผู้บุกเบิกซิงเกิลมอลต์สก็อตช์วิสกี้เจ้าของรางวัลระดับโลก
เจนีน ไลเอนส์ : Vivaldi Public Relations
