หัดเหวี่ยงหนีศูนย์กับไพรมาซี่ เอสยูวี

    การเกาะถนนที่ดีของยาง มิฃลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี
    นายอเล็กซองด์ อองนิยง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจยางรถยนต์นั่งและปิกอัพ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด (คนซ้าย)นางกรรณิการ์ ยอดยิล Product Marketing Manager (คนกลาง)นางสาวสิรินุช ช่างทอง ผู้่อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มธุรกิจยางรถยนต์นั่งและปิกอัพ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด (คนขวา)
    นายอเล็กซองด์ อองนิยง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจยางรถยนต์นั่งและปิกอัพ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด (คนซ้าย)นางกรรณิการ์ ยอดยิล Product Marketing Manager (คนกลาง)นางสาวสิรินุช ช่างทอง ผู้่อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มธุรกิจยางรถยนต์นั่งและปิกอัพ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด (คนขวา)

    กล่าวถึงรถยนต์ที่มียอดจองและยอดขายโตขึ้นในตลาดรถเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า รถยนต์เอสยูวีหรือรถตรวจการณ์ แต่ในทางกฏหมายที่เสียภาษีสรรพสามิต กรมสรรพสามิตจัดกลุ่มรถประเภทนี้ว่าเป็นพีพีวี หรือรถที่พัฒนาจากอนุกรมของ กระบะเป็นรถยนต์ประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนมียอดขายเพิ่มขึ้นทั้งในไทยและตลาดทั่วโลก ด้วยความที่รถยนต์มีความสะดวกสบายและอเนกประสงค์ในทุกด้านเหมาะกับการโดยสารเป็นครอบครัว ยางรถยนต์ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเดินทางและการสร้างเสริมสมรรถนะในการขับขี่ได้ดีมากขึ้น และมิชลินก็แนะนำยางรถยนต์เอสยูวี รุ่น ไพรมาซี่ เอสยูวี ใหม่เข้าสู่ตลาด

    Spider chart ที่มิชลินมั่นใจในสมรรถนะที่ดีรอบด้าน
    Spider chart ที่มิชลินมั่นใจในสมรรถนะที่ดีรอบด้าน

    มิชลินได้แสดง Spider chart เกี่ยวกับความปลอดภัยและสมรรถนะที่ดีรอบด้านโดยการชูสำคัญเทคโนโลยี  4 ด้านเป็นส่วนประกอบได้แก่ 

    4 เทตโนโลยีสำคัญในยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี
    4 เทคโนโลยีสำคัญในยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี

    1.Flexmax 2.0
    2.StabiliGrip
    3.EvenPeak
    4.CushionGuard
    มิชลินได้จัดการทดสอบยางใหม่นี้ขึ้นในวันที่ 8 ต.ค. 2558 ที่ผ่านมา โดยเนรมิตสนามแรนโช่ ชาญวีร์ เขาใหญ่ เพื่อใช้การทดสอบและมิชลินได้เตรียมรถเอสยูวีทุกยี่ห้อมาไว้ในสนามอีกด้วยครับ มาดูกันว่ามิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวีจะเก่งทุกรอบด้านเหมือนที่ Spider chart ว่าเอาไว้หรือป่าว

    ด่านทดสอบระยะการเบรคแบบพื้นถนนเปียก
    สถานีทดสอบระยะการเบรคแบบพื้นถนนเปียก

    สถานีแรกในการทดสอบยาวมิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี
    คือการทดสอบสมรรถนะยางบนพื้นถนนที่เปียก ซึ่งมิชลินให้ทางเราขับรถยนต์ Honda CR-V รุ่น 2.0 โดยคันหนึ่งใส่ยางของคู่แข่งชั้นนำ และอีกคันใส่ยางยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี เส้นทางการทดสอบไม่เน้นความยาก แต่เน้นการโชว์ประสิทธิภาพในการเบรกของรถ โดยมิชลินบอกกับเราว่ารถที่ใส่ยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี ของมิชลินสามารถเบรกบนถนนเปียกได้สั้นกว่าประมาณ 2.3 เมตร เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

    เราจะไปชมกันครับว่า มันจะสร้างรถยะเบรคได้แค่ไหนกันครับ ผมลืมบอกไปนะครับ ทุกการทดสอบเราจะมี ผู้เชี่ยวชาญนั่งไปกับสื่อมวลชนทุกท่านตลอดเพื่อความปลอดภัยในการทดสอบครับ
    โดยการขับครั้งแรกของผมได้ขับตัว Honda CR-V ที่ติดยางคู่แข่ง เป็นการทดสอบทางตรงบนถนนที่เปียกด้วยความเร็วที่ 85 ก.ม./ช.ม.และเหยียบเบรคแบบ 100 % เราเองสามารถทำระยะการเบรคได้ที่ 28.1 เมตร วัดจากเครื่องมือทดสอบ Vbox ก่อนที่รอบต่อมาผมจะขับเจ้า Honda CR-V เหมือนเดิมแต่เปลี่ยนยางเป็นยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี และครั้งนี้ทำการเบรกเหมือนกัน ทว่าได้ระยะทางสั้นกว่า เพียง 25.6 เมตร เท่านั้น หรือ จะว่าไป เราสามารถเบรกสั้นกว่าเดิม 2.5 เมตร เพียงเปลี่ยนมาใช้ยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี

    รถ Honda CR-V ที่ในใช้การทดสอบและกำลังปล่อยสัญญาณออกตัวเพื่อเริ่มทดสอบด่าน Skid Pad
    รถ Honda CR-V ที่ในใช้การทดสอบสัญญาณออกตัวเพื่อเริ่มทดสอบด่าน Skid Pad

    ในสถานีเดียวกัน ทางมิชลินยังให้เราได้ทดสอบสมรรถนะการเกาะถนนของยาง โดยได้สร้างวงเวียนฉีดน้ำตลอดระยะเวลาที่รถเข้ามาในวงเวียน

    ปุ่ม StabiliGrip ที่เพิ่มการรีดน้ำในยางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในพื้นถนนที่เปียก
    ปุ่ม StabiliGrip ที่เพิ่มการรีดน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในพื้นถนนที่เปียก

    เพื่อทดสอบเทคโนโลยียางจากรถยนต์นั่งมาใช้ในรถยนต์อเนกประสงค์อย่าง StabiliGrib เพิ่มปุ่มเล็กๆในระหว่างดอกยางเพื่อลดการล้มตัวของยาง ให้มีการเกาะถนนที่ดีขึ้น รวมถึงยังมีเทคโนโลยี Cushion Guard แก้มยางที่สามารถรองรับแรงกระแทกและแรงกดในระหว่างการเข้าโค้งได้ดี โดยด่านทดสอบนี้จะเป็นการวัดค่าแรงเหวี่ยง

    ด่านทดสอบระยะการเข้าโค้งและทดสอบแรงเหวี่ยง
    สถานีทดสอบระยะการเข้าโค้งและทดสอบแรงเหวี่ยง

    สถานีนี้มีชื่อว่า Skid Pad
    ใช้ขั้นตอนการทดสอบเหมือนกันคือใช้รถยนต์เอสยูวี Honda CR-V ที่ติดยางของคู่แข่ง กับยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี ของมิชลิน การขับทดสอบเราจะเข้าสู่วงเวียนด้วยความเร็ว 40 ก.ม./ช.ม. แล้วก็เร่งความเร็วไปเรื่อยๆ จนกว่ารถจะหลุดโค้ง เครื่องวัดค่าแรงจีจะขึ้นในเครื่องมือ Vbox ผมได้ความรู้เรื่องการวัดแรงเหวี่ยงมาว่าใครทำให้ถึง 1.0 ก็จะถือว่าสุดยอดมากๆเลยนะครับ มาตรฐานมือใหม่แรงเหวี่ยงจะอยู่ที่ 0.79-0.80 ขนาดผู้เชี่ยวชาญทดสอบให้ผมชม 1 รอบ ยังทำได้เพียง 0.88 ผมจึงตั้งเป้าแบบเบสิคๆไว้ที่ 1.0 (ฮ่าๆ ล้อเล่นครับ) ผมจึงตั้งเป้าไว้ที่ 0.80 ตามมาตรฐานมือใหม่หัดเหวี่ยง และสิ่งที่ผมได้สัมผัสอย่างชัดเจนเลยนะครับ คือการสัมผัสของยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวีในการเข้าโค้งแต่ละครั้งจะเกาะพื้นถนนที่เปียกได้ดีกว่า ผมสามารถเข้าโค้ง 60-70 ก.ม./ช.ม.โดยประมาณ ถึงจะหลุดโค้ง  ในขณะที่คู่แข่งเอง สามารถเพิ่มความเร็วได้เพียง 55-65 ก.ม./ช.ม. โดยประมาณ ก็จะหลุดโค้งออกไปเลย ทำให้ผมมั่นใจในสถานีนี้เลยว่า เป็นจุดเด่นแบบกินคู่แข่งขาดทางด้านถนนเปียก และทางด้านการเกาะพื้นถนนในสภาพที่เปียกได้ถึงขั้นดีมากเลยครับ ผมได้ขึ้นไปเชคค่าแรงเหวี่ยงในการเข้าโค้ง ยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี ผมยังถือว่าทำได้ตามมาตรฐานอยู่ที่ 0.79 แต่กับคู่แข่ง 0.77

    การทดสอบระยะการเบรคบนพื้นถนนแบบแห้ง
    สถานีทดสอบระยะการเบรคบนพื้นถนนแห้ง

    หลังจากผมได้ทดสอบสถานีพื้นที่เปียกเสร็จแล้ว ผมก็ไปทดสอบบนพื้นถนนที่แห้งกันต่อเลยครับ
    โดยการทดสอบเบรคบนพื้นถนนที่แห้งนี้ ก็ยังเป็นเจ้า Honda CR-V รุ่น 2.0 สลับกันขับเหมือนเช่นเดิม เริ่มจากยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี  ออกตัวไปจนถึงความเร็วที่ 85 ก.ม./ช.ม. และเบรคแบบ 100% ยางไพรมาซี่ เอสยูวีทำระยะเบรคได้ 26.8 เมตร แต่กับยางคู่แข่งชั้นนำทำระยะการเบรค ถึง 28.5 เมตร  เราสามารถวัดค่าความต่างระยะการเบรคบนพื้นถนนแห้งได้ 1.7เมตร

    ด่านการทดสอบหน้่ายางและแก้มยางในการเปลี่ยนเลนกระทันหัน
    สถานีทดสอบหน้ายางและแก้มยางในการเปลี่ยนเลนกระทันหัน

    นอกจากการทดสอบสมรรถนะในการเบรคแล้วยังมีการจำลองการเข้าโค้งของยางไม่ว่าจะการเปลี่ยนเลนกะทันหัน ตลอดจนขับแบบสลาลม ซึ่งยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวีก็ตอบสนองการขับขี่ได้ดี

    คาราวาน Rally ลุยขึ้นเขายายเที่ยง
    คาราวานลุยขึ้นเขายายเที่ยง

    นอกจากนี้นะครับมิชลินได้ทำการจัด Rally ให้กับสื่อมวลชนได้ไปทดสอบยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี บนพื้นถนนธรรมดาตลอดจนพื้นถนนทางลูกรังบนเขา โดยเส้นทางการขับขี่เริ่มจาก หน้าสนามแรนโช่ ชาญวีร์ – เขายายเที่ยง ระยะทางรวม 65 กิโลเมตร มิชลินได้เสกรถเอสยูวีให้ผู้สื่อข่าวได้เลือกในการออก Rally ครั้งนี้ครบทุกยี่ห้อกันเลย ผมได้ขับ Lexus Nx 300h Hybrid ซึ่งรถทุกคันใส่ยาง ไพรมาซี่ เอสยูวีไว้หมด การเดินทางบนพื้นถนนธรรมดานั้น ยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี ได้แสดงศักยภาพในการขับขี่ที่ดีทำให้ผมรู้สึกมั่นใจในการขับขี่ อีกทั้งได้แสดงศักยภาพทางลูกรักตอบสนองได้เป็นอย่างดี ยางรุ่นนี้ดีเกินความหมายจริงๆครับ

    สภาพพื้นถนนทางลูกรังที่ยาง มิฃลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี ขับได้นุ่มสบาย
    สภาพพื้นถนนทางลูกรังที่ยาง มิฃลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี ขับได้นุ่มสบาย

    โดยการขับ Rally เราจะได้มีโอกาสทดสอบยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวีได้อย่างชัดเจน ในสภาพการใช้งานบนถนนจริง ซึ่งยาง มิชลิน ไพรมาซี่ เอสยูวี ก็แสดงศักยภาพของมันทั้งในเรื่องของความมั่นใจในการขับขี่ที่ดี ไม่ว่าจะเส้นทางบนถนนหลวงทั่วไป หรือถ้าชีวิตจะต้องลุยสักหน่อย อย่างทางลูกรัง หรือ สภาพถนนไม่ดีที่เราสามารถพบได้ตามต่างจังหวัดทั่วไป เจ้ายางรุ่นนี้ก็ให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้เกินความคาดหมายในการเดินทาง
    โดยผมขอสรุปได้ดังนี้ครับ
    ระยะการเบรคบนถนนแห้ง ผมให้คะแนน 9 / 10
    ระยะการเบรคบนถนนเปียก  ผมให้คะแนน 10/10
    ประสิทธิภาพการเข้าโค้งบนพื้นถนนแห้ง  ผมให้คะแนน 8/10
    ประสิทธิภาพการเข้าโค้งบนถนนเปียก ผมให้คะแนน 9/10[fblike]


    ตัวเลือกยางถนนให้เอสยูวี

    สำหรับกลุ่มยางที่เป็นคู่แข่งของไพรมาซี่ เอสยูวีนั้นคือยางถนน หรือยางH/T ซึ่งเป็นยางที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในตลาดโดยมียี่ห้อที่เป็นคู่แข่งดังนี้
    โยโกฮาม่า GEOLANDAR H/T G056
      โยโกฮาม่า มาตรฐานญี่ปุ่นเช่นกันหลังจากที่สร้างโรงงานใหญ่ในไทยก็รุกตลาดมากขึ้น จีโอแลนดร้า เป็นยางที่มีดอกยางสวยงามให้ความนุ่มเงียบ ภายใต้นวัตกรรมการออกแบบโครงสร้างยาง  ส่วนผสมของเนื้อยางและดอกยางให้มีความนุ่มเงียบใช้งานได้ยาวนาน  มีการพัฒนาบล็อกดอกยางให้มีขนาดต่างกันถึง 5 ขนาด  ร่องยางแบบ 3D และร่องยาง Multiple Lug  ช่วยให้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดี

    บริดจสโตน  DUELER H/P 680
    ค่ายยางมาตราฐานโลกที่เป็นเจ้าตลาด สำหรับยางตระกูลดูลเลอร์ นั้นถือว่าให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน เงียบและนุ่มนวลในการขับขี่ คุณลักษณะไม่เด่นไม่ด้อย รวมถึงไม่ใช่ยางที่ดุดัน ดูลเลอร์ดูกลมกลืนทุกส่วน

    กู๊ดเยียร์ EffiicientGrip SUV
    ค่ายกู๊ดเยียร์มียางรุ่นเอฟฟิเจนซี่ กริ๊ป เป็นยาง SUV สมรรถนะสูง เงียบนุ่มแต่ไม่ค่อยนิยมมากนักในรถญี่ปุ่น แม้ชื่อชั้นจะเก่าแก่แต่ค่ระยะหลัง ไม่ค่อยได้รับการวางใจในตลาดมากนักในกลุ่มรถเอสยูวี

    ดันลอป GRANDTREK PT 2
    แกรนด์เทรค จัดว่าเป็นยางที่โดดเด่น ในใช้งานบนทางหลวงความเร็วสูง ที่เน้นในเรื่องความเงียบ และความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยโครงสร้างของ PT2 ถูกออกแบบให้เข็มขัดรัดหน้ายาง ช่วยลดแรงกระแทกขณะขับขี่ จึงเหมาะสำหรับ   บนถนนไฮเวย์ ที่ความเร็วสูง

    Previous articleมิชลินเปิดตัว ไพรมาซี่ เอสยูวี เจาะตลาดรถตรวจการณ์
    Next articleส่องโปรแรงที่แปซิฟิคมอเตอร์โชว์ #18