Home กระแสยานยนต์ report MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN#1 ปักหมุดไทยเชื่อมลุมน้ำโขง

MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN#1 ปักหมุดไทยเชื่อมลุมน้ำโขง

 Thaiautopress.com ร่วมรายงานการเดินทางครั้งสำคัญของสื่อมวลชน กับคาราวาน มาสด้า ในโครงการ MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN บนเส้นทาง EAST – WEST ECONOMIC CORIDOR รวมระยะทางกว่า 2,900 KM.

โครงการเดินทางด้วยรถยนต์ “มาสด้า” ที่เป็น “บิ๊ก โปรเจ็ค” นี้เป็นหนึ่งในคอนเซ็ป ไอเดียที่มาสด้าบอกว่า “เรากล้า…ที่จะต่าง” ด้วยการนำสื่อมวลชนไทย เดินทางไปเปิดประสบการณ์ด้วยการ ขับจริง วิ่งจริง “ซึ่งมาสด้านำเอารถยนต์ที่มี ดีเอ็นเอ มาสด้า เข้าสู่โหมดของความท้าทายอีกครั้ง การเดินทางที่ยาวไกล นอกจากการเตรียมตัวและการวางแผนที่ดีแล้ว “รถ”ที่ใช้งานต้อง”แกร่งและพร้อม”รับสิ่งท้าทายที่จะต้องเผชิญในเส้นทางและแม้จะมีการวางแผนและออกแบบการเดินทางมาอย่างดี โดยทีมงานที่เชี่ยวชาญแต่จากประสบการณ์ เราพบว่าหลายอย่าง “ไม่ง่าย”

มาสด้านั้นทำในสิ่งที่แตกต่างมาโดยตลอด หลังจากการรีแบรนด์เมื่อสิบกว่าปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นการ นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกนำมาใส่ในมาสด้าในยุคปัจจุบัน การเบรคทรูเทคโนโลยีเหล่านั้นเรียกและรู้จักกันในชื่อ “สกายแอคทีฟ”การออกแบบให้รถมีประสิทธิภาพสูงในการขับขี่ เป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ที่มาสด้าให้ชื่อว่าจินบะ – อิไต (Jinba – Ittai) หรือล่าสุดการอัพเดทระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-Vectoring Control : GVC)

การเดินทางที่ท้าทายเช่นนี้ มาสด้าได้นำมาใช้เป็นกลยุทธ์การตลาดเพื่อพิสูจน์”ประสิทธิภาพของรถ”ครั้งหนึ่งมาสด้าเคยวางแผนสร้างปฐมการเดินทางที่ท้าทายมาแล้วแต่โครงการนั้นถูกพับแผนไปด้วยปัจจัยบางอย่าง ทำให้ไอเดียไปตกอยู่กับค่ายอื่นๆ แต่มาสด้าก็ไม่ล่ะความพยายามที่จะพิสูจน์ ก่อนจะจัดกินกรรมครั้งใหญ่นั่นคือการเดินทาง ยาวไกลไปถึง มองโกเลีย ดินแดนของเจงกิสข่าน และไซบีเรีย จนสำเร็จจากนั้นมาสด้าก็เป็นรถยนต์ค่ายสำคัญ ที่ปักหมุดจากเมืองไทยด้วยคาราวาน เพื่อมุ่งพิสูจน์เส้นทางด้วยรถยนต์แบบข้ามประเทศ ในหลากหลายเส้นทางที่ท้าทาย

แผนการเดินทางปี 2017

ปี2017 เรื่องราวความประทับใจ ในรูปแบบคาราวานครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้น ด้วยวิสัยทัศน์ของมาสด้าไม่ได้มองเพียงการเติบโตของมาสด้าประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับสมาชิกในกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งเป็นภูมิภาคที่สำคัญต่อการลงทุน ด้วยประชากรประมาณ 600 ล้านคน จากตัวเลขการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมรถยนต์ ถือเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศอย่างมหาศาล

มาสด้า ประเทศไทย คือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าที่สำคัญไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั้งทั้งอาเซียน และต่างประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังส่งผลดีต่อเนื่องไปถึงอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง จนเกิดเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาเซียน หากทุกประเทศในอาเซียนประสานความร่วมมือกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลุงทุน จะสามารถสร้างรายได้แต่ละประเทศสมาชิกต่อเนื่อง

สกายแอคทีพ10 คัน 

กิจกรรม MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN ครั้งนี้มาสด้าได้เตรียมรถที่มีเทคโนโลยี สกายแอคทีฟไว้  10 คัน  ในคณะประกอบด้วยสื่อมวลชนและผู้บริหารมาสด้าทีมงานกว่า100ชีวิต แบ่งการเดินทางออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน โดยคาราวานจะใช้เส้นทาง R2 หรือ R9 เป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง  รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 2,900 กิโลเมตร ในระหว่างวันที่ 20-26 มิถุนายน 2560 ระยะรวมระยะเวลา 7 วัน

 

กลุ่ม1 เวียตนาม-ลาว-ไทย

จากความร่วมมือจาก 6 ประเทศ ประกอบด้วย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน และไทย ได้ร่วมผนึกกำลังทางเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวทางการค้า การลงทุนด้านอุตสาหกรรม ด้านการเกษตร และด้านการบริการ เพิ่มคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชากร

กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ได้มีการกำหนด 9 เส้นทางหลักเพื่อเป็นพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ Greater Mekong Subregion (GMS) โดยขบวนคาราวานรถยนต์มาสด้าจะออกโลดแล่นไปบนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ แนวตะวันออกมุ่งหน้าสู่ตะวันตก หรือที่รู้จักกันในชื่อ EAST-WEST ECONOMIC CORRIDOR เรียกว่าเส้นทาง R2 หรือ R9 เมื่ออยู่ในประเทศลาว ที่เชื่อมสองมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ จากมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออก หรือทะเลจีนใต้ กับมหาสมุทรอินเดียตะวันตก สัมผัสขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม รวมไปถึงการเติบโตของสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียน

ผู้ร่วมเดินทางกลุ่มแรก หรือกลุ่มที่1 จะเริ่มต้นภารกิจด้วยการบินลัดฟ้าสู่เมืองเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม (วันที่ 20-23 มิ.ย. 2560) และคณะสื่อมวลชนเข้าจะได้เยี่ยมชม ฐานการผลิตรถยนต์มาสด้าในเวียตนาม และเดินทางต่อไปยังเมืองเว้ เขตเศรษฐกิจพิเศษของเวียดนาม ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ตะวันตก สู่ด่านชายแดนลาวบาวของเวียดนาม-ลาว และข้ามแม่น้ำโขงผ่านประเทศลาว ด้วยสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เข้าสู่ประเทศไทยในจังหวัดมุกดาหาร ผ่านขอนแก่น มุ่งหน้าสู่พิษณุโลก จังหวัดที่รัฐบาลไทยปลุกปั้นให้เป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงการเดินทาง ทุกสารทิศ นั่นคือ “4 แยกอินโดจีน” ด้วยตำแหน่งที่อยู่กึ่งกลางจุดตัดระหว่าง NSEC และ EWEC จึงเกิดการเชื่อมโยงเศรษฐกิจจากทั้ง 4 ทิศ ภาครัฐจึงสนับสนุนให้เกิดการลงทุน มีการจัดตั้งศูนย์บริการกระจายสินค้า และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

กลุ่ม2 ไทย-พม่า

การเดินทางช่วงที่ 2 รับช่วงต่อโดยผู้ร่วมเดินทางกลุ่มที่สอง (วันที่ 23-25 มิ.ย. 2560) ประเดิมวันแรกกับเส้นทางพิษณุโลก สู่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อข้ามแดนสู่เมืองมะละแหม่ง เมืองตากอากาศชายทะเล ประเทศพม่า ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองย่างกุ้ง เมืองหลวงประเทศพม่า ปิดท้ายทริปด้วยบรรยากาศและความงดงาม ณ “ตลาดสก๊อต” ก่อนที่จะส่งมอบพวงมาลัยต่อให้ร่วมเดินทางกลุ่มสุดท้าย (วันที่ 24-26 มิ.ย. 2560)

กลุ่ม3 ย่างกุ้ง-กรุงเทพฯ

การเดินทางในช่วงสุดท้าย คือ สามชิกกลุ่มที่ 3 ก่อนรับภารกิจครั้งนี้ได้มีโอกาสเดินทาง ใน2 ประเทศ โดยวางเส้นทางผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพม่า  เริ่มต้นที่วัดเจ๊าทัตยี พระนอนองค์ใหญ่, พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง และเจดีย์โบดาทาวน์ (วัดเทพทันใจ) กลับสู่ประเทศไทย ผ่านด่านแม่สอด มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานครถือเป็นอันเสร็จสิ้นสุดภารกิจ เส้นทางที่กำหนดไว้ เวียดนาม-ลาว-ไทย-พม่า นั้นเชื่อมโยงอารยธรรม เชื่อมโยงเศรษฐกิจจากมหาสมุทรแปซิฟิกสู่มหาสมุทรอินเดีย รวมระยะทางกว่า 2,900 KM. ติดตามสีสันการเดินทางไปกับเรา thaiautopress.com Spacial Report


          เกี่ยวกับมาสด้าและเทคโนโลยี รถที่ใช้เดินทางในคาราวาน

มาสด้าได้มุ่งมั่นทุ่มเทพัฒนาจนประสบความสำเร็จ จนวันนี้ได้เป็นเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด จนได้รับการยอมรับมาแล้วทั่วโลก ซึ่งถือเป็นความก้าวล้ำทางด้านเทคโนโลยีและความท้าทายใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ผนวกด้วย 4 หัวใจหลักของรถยนต์ ประกอบด้วยเครื่องยนต์ทั้งเบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ โครงสร้างตัวถัง และแชสซีส์ ที่พร้อมส่งมอบการขับขี่แบบ ซูม-ซูม สไตล์สปอร์ตของมาสด้า ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและให้ความปลอดภัยสูงสุด โดยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดทั้งหมดนี้จะอยู่ในรถในอนาคตของมาสด้าทุกรุ่นจนกลายเป็น MAAZDA DNA SKYACTIV ที่กำลังจะนำท่านสื่อมวลชนไปร่วมสัมผัสบนเส้นทางสายเศรษฐกิจที่สำคัญ

ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกนำมาใส่ในมาสด้าในยุคปัจจุบันกับ สกายแอคทีฟ – วิฮีเคิล ไดนามิกส์ (SKYACTIV – Vehicle Dynamics) ที่มาพร้อมกับระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-Vectoring Control : GVC) ซึ่งเป็นการต่อยอดจากเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ช่วยผสานการทำงานของรถยนต์ทั้งคัน ทั้งเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถัง รวมไปจนถึงระบบช่วงล่าง ที่สอดประสานการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถรีดสมรรถนะอันทรงพลังได้เต็มขั้น สัมผัสความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถให้เป็นหนึ่งเดียวกัน กับแนวคิด จินบะ – อิไต (Jinba – Ittai) ได้มากยิ่งขึ้น ให้อารมณ์สปอร์ตเร้าใจ แม้กระทั้งผู้โดยสารยังรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง

หากเจาะลึกถึงองค์ประกอบดีเอ็นเอของมาสด้า ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ – วิฮีเคิล ไดนามิกส์ กับเครื่องยนต์ทั้งสกายแอคทีฟคลีนดีเซล (SKYACTIV-D) คือเครื่องยนต์ดีเซลที่เผาไหม้สะอาดเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดที่สามารถผ่านข้อกำหนดมาตรฐานไอเสียโลก โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเร่งปฏิกิริยาที่มีราคาสูงเพื่อลดไอเสีย ที่ให้แรงบิดสูง ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสกายแอคทีฟเบนซิน (SKYACTIV-G) คือเครื่องยนต์เบนซินแบบไดเร็คอินเจ็คชั่น ที่ให้ประสิทธิภาพสูง เจนเนอเรชั่นใหม่ที่เป็นนวัตกรรมชิ้นเอกของวงการยานยนต์โลก นับว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีอัตราแรงอัดอากาศในการเผาไหม้สูงที่สุดของโลก คืออัตรา 14:1 โดยที่เครื่องยนต์ไม่เกิดอาการน๊อค เผาไหม้สมบูรณ์ ให้แรงม้าและแรงบิดสูง พร้อมประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

SKYACTIV-Drive ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed คือ ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ส่งถ่ายแรงบิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ แม่นยำ ราบรื่น ต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์ช่วยรักษามลพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย รวมจุดแข็งของเกียร์อัตโนมัติได้ครบทุกประการ ในส่วนของโครงสร้างตัวถัง

SKYACTIV-Body ที่ถูกพัฒนาเพื่อลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็นลง เป็นโครงสร้างที่คงความแข็งแกร่ง เสถียร และให้ความปลอดภัยสูงสุดจากแรงปะทะรอบทิศทางผลิตจากเหล็กกล้าที่ทนแรงดึงสูง เหนียว แข็งแกร่ง มีน้ำหนักเบา อีกทั้งยังช่วยลดแรงกระเทือนจากพื้นถนนควบคู่ไปกับการกระจายแรงปะทะที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ และองค์ประกอบสุดท้ายที่สำคัญกับช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ

SKYACTIV-Chassis คือ แชสซีส์เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ให้ประสิทธิภาพสูง มีน้ำหนักเบา แต่ให้สมดุลที่สมบูรณ์แบบของทั้งการควบคุมการขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุด ที่คล่องตัวด้วยระบบช่วงล่างที่เกาะถนนมั่นคง พร้อมระบบบังคับเลี้ยวที่เป็นตัวช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ซึ่งส่งผลโดยตรงในเรื่องของความปลอดภัย

และเมื่อทั้ง 4 หัวใจหลักของมาสด้าเริ่มสอดผสานการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เกิดสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลัง ให้สัมผัสการขับขี่อย่างมีเอกลักษณ์ของมาสด้า นั่นคือ อารมณ์สปอร์ตที่ให้ความสนุก เร้าใจ สนุกทุกการขับขี่

สำหรับดีเอ็นเอ สกายแอคทีฟสายพันธ์ล่าสุดนี้ ได้ถูกฝังในหัวใจของรถมาสด้ารุ่นปัจจุบันของปี 2017 ซึ่งได้แก่ มาสด้า2, มาสด้า3, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะถูกส่งต่อในรุ่น มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ที่กำลังจะมาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบอีกระดับให้กับตลาดรถครอสโอเวอร์อีกครั้งในไม่ช้านี้ด้วย และด้วยผลลัพธ์อันทรงคุณค่าที่มาสด้าได้เพียรพยายามจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้ จึงเป็นเหตุผลของการหาสนามเส้นทางที่จะมาร่วมทดสอบดีเอ็นเอสกายแอคทีฟทุกรุ่น

ข้อมูลเพิ่มเติม www.mazda.co.th หรือ www.facebook.com/MazdaThailandOfficial

 

Previous articleงานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 41 เริ่มแล้ว ชมรถหายากกว่า 100 คัน
Next articleมาสด้าเร่งขยายเครือข่ายพร้อมปรับภาพลักษณ์ ผุดโชว์รูมแห่งใหม่บนเทพารักษ์