บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ปูทางสู่มอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 ขนทัพรถยนต์แห่งอนาคตใหม่ล่าสุด นำโดยสมรรถนะอันทรงพลังและประสิทธิภาพเหนือชั้นจากบีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่
กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เตรียมเข้างาน มหกรรมยานยนต์ ( Thailand International Motor Expo 2017 ) ครั้งที่ 34 วันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม 2560 นี้ เตรียมยกทัพรถยนต์นวัตกรรมโดดเด่นล้ำสมัยสู่สายตาผู้เข้าร่วมงาน นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ เป็นเจเนอเรชั่นที่3 พร้อมด้วยบีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดสมาชิกใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยูอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury และบีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) รวมถึงสุดยอดขุมพลังจาก บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive และอีกหนึ่งรุ่นย่อยพร้อมอุปกรณ์ตกแต่ง M ในรุ่นบีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport
นายสเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าว “บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของความทุ่มเทนี้ ด้วยความโดดเด่น การออกแบบที่ปราดเปรียว ระบบการขับขี่อันทรงพลังที่ยังคงประสิทธิภาพอย่างเหนือชั้น และความหรูหราในทุกแง่มุมของตัวรถ
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ จึงพร้อมพุ่งทะยานสู่ท้องถนนและสานต่ออีกหนึ่งบทความแห่งสำเร็จจากรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3”
10เดือนทำตลาด 8 พันคัน
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้เปิดเผยถึงความสำเร็จใน 10 เดือนแรกของปี 2560 ที่ผ่านมา “นอกเหนือจากทัพรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเผยโฉมให้แก่แฟนๆ ชาวไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้แล้ว
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังประสบความสำเร็จด้วยการสร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2560 ด้วยยอดการส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยูและมินิรวมถึง 8,344 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีที่ 28% ซึ่งนับเป็นสถิติการส่งมอบในช่วง 10 เดือนแรกที่สูงกว่ายอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยทั้งปี 2559 ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล iPerformance ยังทุบสถิติด้วยยอดส่งมอบรวม 852 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมากถึง 234% ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทำยอดได้ทั้งสิ้น 1,494 คัน หรือเพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา” นายสเตฟานกล่าว
เปิดตัว X3 xDrive20d xLine ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู X3 รุ่นที่3 สืบทอดเจตนารมณ์ของรถยนต์รุ่นก่อนหน้าด้วยการผสานรูปลักษณ์แข็งแกร่งแบบออฟโรดเข้ากับความสปอร์ต สัดส่วนอันคุ้นตาของตัวรถ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้รับการออกแบบเพื่อรองรับ การกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ระหว่างเพลาหน้าและหลังเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ความปราดเปรียวอันทรงพลังของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ ถูกเสริมให้ดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าไตคู่แบบหนา และไฟตัดหมอกแบบหกเหลี่ยมที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X
ชุดแต่ง BMW Individual และ xLine เติมรูปโฉมของบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ โดยมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วลาย Y-spoke ภายในรถเฉียบคมด้วยความแม่นยำในการประกอบอย่างสมบูรณ์แบบและวัสดุคุณภาพเยี่ยม ส่งให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ คลาสสิคหรูหรายิ่งกว่ารถรุ่นก่อนหน้า พร้อมยกระดับความสะดวกสบายขึ้นอีกขั้นกับอุปกรณ์เสริมใหม่ล่าสุดด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ชุดไฟเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสาร 6 สี ม่านบังแดดด้านข้างผู้โดยสารตอนหลังแบบอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นมาตรฐานในส่วนเก็บสัมภาระด้วยพนักพิงเบาะหลังแบ่งพับแบบ 40:20:40 และหลังคากระจกแบบพาโนรามาที่เสริมให้ภายในตัวรถโปร่งสบายยิ่งขึ้น ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ โดดเด่นยิ่งกว่า พร้อมอีกหนึ่งอุปกรณ์ใหม่อย่าง BMW Display Key ที่ไม่เพียงล็อคและปลดล็อคบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ ด้วยสัญญาณวิทยุทางไกล แต่ยังแสดงสถานะและข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานอื่น ๆ ของรถอีกด้วย
เครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพ
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ โฉบเฉี่ยวด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ทำงานประสานเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Strepsonic เครื่องยนต์อันทรงพลังให้กำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ส่งให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ เร่งเครื่องจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 17.6 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 150 กรัมต่อกิโลเมตร
เทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ถูกนำมาใช้ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine ใหม่ ซึ่งรวมถึงระบบส่งกำลังที่ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการออกแบบทุกสัดส่วนเน้นน้ำหนักเบา เช่น การนำอลูมิเนียมมาใช้เป็นส่วนประกอบมากขึ้นในเครื่องยนต์และช่วงล่างที่ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้มากขึ้น
ต่อยอดที่สุดแห่งความเพลิดเพลินในการขับ
X3 xDrive20d xLine ใหม่ มาพร้อมกับปุ่มควบคุม iDrive สั่งงานด้วยระบบสัมผัสและจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control) ช่วยควบคุมระบบนำทางและฟังก์ชั่นสาระบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
ในขณะเดียวกัน ระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) ซึ่งผู้ขับขี่ใช้ภาษาในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย แทนคำสั่งที่มีการตั้งค่าไว้
ราคา จำหน่าย 3,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่
Gran Turismo รุ่นดั้งเดิมอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 Gran Turismo นั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างอย่างชัดเจน ด้วยการผสมผสานประโยชน์ใช้สอยแบบรอบด้านจากรูปลักษณ์ของตัวถัง เข้ากับความสะดวกสบายและพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นพิเศษ จึงพร้อมมอบประสบการณ์สุด ผ่อนคลายบนทุกเส้นทาง จุดเด่นทั้งหมดนี้ได้ถูกนำมาขัดเกลาและรวบรวมไว้ในรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 6 Gran Turismo ที่ต่อยอดจากความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 Gran Turismo ทั้งในด้านความหรูหราแบบสปอร์ต อุปกรณ์และฟีเจอร์ทันสมัย ระบบการควบคุมและช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัย พร้อมด้วยความปราดเปรียวและประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด
เบากว่า สปอร์ตกว่า
ด้วยการออกแบบที่เน้นน้ำหนักเบา และการเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมและเหล็กกล้าคุณภาพสูงในส่วนโครงสร้างตัวรถและแชสซี บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ จึงมีน้ำหนักลดลงจากรุ่นก่อนหน้าราว 150 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อนำไปผสมผสานกับคุณสมบัติทางอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเครื่องยนต์ใหม่ที่ทรงพลังและเปี่ยมประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงทำให้บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ มีสมรรถนะสไตล์สปอร์ตที่เปี่ยมพลังกว่าที่เคย ทั้งยังประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
เครื่อง6สูบ
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบที่เป็นหัวใจของบีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ เสริมกำลังด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ล้ำสมัย ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic มอบพละกำลังสูงสุดที่ 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า พร้อมให้แรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร จึงเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 6.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 17.7 กิโลเมตรต่อลิตร และ 149 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
ดีไซน์ปราดเปรียว เรียบหรู
ด้านหน้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างและทรงพลังด้วยเลนส์ไฟหน้า LED ที่ทอดยาวไปจนถึงกระจังหน้ารูปไตคู่ขนาดใหญ่ เมื่อมองจากด้านข้างแล้ว จะเห็นได้ถึงความหรูหราสไตล์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู โดดเด่นด้วยฟีเจอร์คุ้นตาเช่นฝากระโปรงหน้าทรงยาว ห้องโดยสารที่ค่อนไปทางด้านหลังของตัวรถ ประตูที่มาพร้อมกับหน้าต่างแบบไร้กรอบ และแนวขอบหน้าต่างที่ลากยาวไปจนถึงท้ายตัวรถ ส่วนหลังคารถลาดเทลงมาบรรจบกับส่วนท้ายรถในสไตล์โฉบเฉี่ยวแบบรถยนต์คูเป้ ขณะที่ช่วงท้ายรถเองก็มีความสูงลดลง 64 มิลลิเมตร ด้านไฟท้ายออกแบบมาในสไตล์สามมิติ เสริมความโดดเด่นให้น่าค้นหายิ่งขึ้น ชุดแต่ง M Aerodynamics ขับเน้นบุคลิกความสปอร์ตของบีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ ให้โดดเด่นไม่ซ้ำใครยิ่งขึ้น
สะดวกสบายในการเดินทางไกล
รถถูกออกแบบเพื่อเน้นความสะดวกสบายในการควบคุมรถของผู้ขับขี่ พร้อมด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นพิเศษ เบาะที่นั่งยกสูงเปิดมุมมองที่ครอบคลุมทุกทิศทางให้กับผู้ขับขี่ ขณะที่การจัดวางฟังก์ชั่นการควบคุมต่าง ๆ เป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์อย่างไร้ที่ติ จึงสร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่ได้ถึงขีดสุด เส้นสายต่าง ๆ วัสดุที่ใช้ และความประณีตแม่นยำในการตกแต่ง เสริมความพรีเมียมหรูหราให้กับห้องโดยสารยิ่งขึ้น ส่วนห้องโดยสารด้านหลังของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ ประกอบไปด้วย 3 ที่นั่งขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง
บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ สะดวกต่อการใช้งานด้วยประตูท้ายรถแบบบานเดี่ยวที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เบาะที่นั่งปรับเอนได้แบบ 40:20:40 สามารถพับให้เป็นพื้นราบสำหรับเก็บสัมภาระได้ด้วยปุ่มกดบริเวณพื้นที่กระโปรงท้าย ส่วนฝาปิดช่องเก็บสัมภาระแบบสองชิ้น มาพร้อมกับโครงสร้างแข็งแกร่งทนทาน และสามารถพับเก็บไว้ใต้พื้นกระโปรงท้ายได้
บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบควบคุมและแสดงผลชั้นเยี่ยม นำเสนอที่สุดแห่งความครบถ้วนในการควบคุมรถยนต์ การนำทาง รวมถึงฟังก์ชั่นการสื่อสารและระบบบันเทิงได้อย่างไม่มีใครเทียบ ด้วยระบบ iDrive ที่เป็นแกนหลักของการสั่งงานรถยนต์รุ่นนี้ ทั้งยังเสริมประสิทธิภาพการใช้งานด้วยระบบสัมผัสบนหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) และระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control)
ราคาจำหน่าย 4,739,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่ สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่รถยนต์ในเซกเมนต์ซีดานหรู ด้วยประสบการณ์ นุ่มนวลเหนือระดับในการขับขี่ที่มาพร้อมขีดสุดของขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 12 สูบ ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี BMW M Performance TwinPower Turbo ส่งพละกำลังสูงสุด 448 กิโลวัตต์/610 แรงม้า ที่ 5,500-6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ 1,550-5,000 รอบต่อนาที และด้วยสมรรถนะจากเทคโนโลยีล้ำยุคของ M Performance TwinPower Turbo บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียงแค่ 3.7 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอบพลังแห่งความเร็วควบคู่ไปกับการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Steptronic Sport พร้อมระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ
ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่แสดงถึงจิตวิญญาณของความปราดเปรียวแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล M Performance อย่างชัดเจน ชุดแต่ง M Aerodynamics มาพร้อมกับล้อ อัลลอย M ลาย Double-spoke ขนาด 20 นิ้ว และสปอยเลอร์ท้ายดีไซน์ M อีกทั้งยังพกพาอุปกรณ์ภายนอกที่โดดเด่นอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟสูงเทคโนโลยีเลเซอร์ ระบบช่วยปิดประตูแบบผ่อนแรงกระแทก หลังคากระจก Sky Lounge เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและด้านหลัง กล้องแสดงภาพรอบตัวรถ ระบบช่วยการนำรถเข้าที่จอด และฟังก์ชั่นจอดรถด้วยกุญแจรีโมทโดยปราศจากผู้ขับขี่
ดีไซน์ภายในตัวรถบีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่ ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบีเอ็มดับเบิลยู M Performance ด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแท้ดีไซน์ M พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ paddle shift เบาะนั่งบุด้วยหนังแท้ Merino แบบ comfort ปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งและฟังก์ชั่นนวดผ่อนคลายทั้งตอนหน้าและตอนหลัง คอนโซลและภายในตัวรถตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาแบบ piano finish
เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยูในตระกูลซีรีส์ 7 รุ่นอื่น ๆ บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive ใหม่ มาพร้อมจอภาพแสดงผลแบบสัมผัสในระบบ iDrive ขนาด 10.25 นิ้ว และระบบสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวมือ หรือ BMW Gesture Control System ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวด้วยเซนเซอร์สามมิติ สามารถใช้สั่งการระบบบันเทิงและการสื่อสารได้อย่างสะดวกและง่ายดาย โดยสามารถใช้ได้กับการควบคุมระดับเสียง และการรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้า นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยระบบบันเทิงพร้อมจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ควบคุมด้วยปุ่ม tablet เพลิดเพลินกับความบันเทิงด้วยระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูงจาก Bowers & Wilkins รวมทั้งการเชื่อมต่อและชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
ราคาจำหน่าย 13,539,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport / บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury
บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบรุ่นใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์/ 184 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 290 นิวตันเมตร ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 83 กิโลวัตต์/ 133 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกัน เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังรวมสูงสุดถึง 185 กิโลวัตต์/ 252 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุดกว่า 420 นิวตันเมตร ด้านอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 55.6 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อย CO2 ที่ 41 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.2 วินาที และเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากโหมด SPORT, COMFORT และ ECO PRO ผู้ขับขี่สามารถใช้ eDrive เพื่อเปิดการใช้งานระบบ BMW eDrive ซึ่งช่วยให้ทุกการเดินทางแม่นยำมากขึ้นด้วยอีก 3 โหมดเพิ่มเติม คือ AUTO eDRIVE, MAX eDRIVE และ BATTERY CONTROL สำหรับแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู 530e iPerformance ทั้ง 2 รุ่นนี้สามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป ใช้เวลาในการชาร์จน้อยกว่า 5 ชั่วโมง หรือหากชาร์จด้วยอุปกรณ์บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์ เพียว (BMW i Wallbox Pure) ที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และรวดเร็วด้วยกำลังไฟถึง 3.7 กิโลวัตต์ (16 แอมป์/ 230 โวลท์) จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอด (Parking Assistance) จะทำให้การจอดรถด้วยระบบอัตโนมัติง่ายดายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถแบบแนวขนานหรือเข้าซอง พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษเพิ่มเติม โดยในรุ่นนี้ ระบบสามารถจอดรถได้ในพื้นที่จอดที่มีความยาวกว่าตัวรถเพียง 80 เซนติเมตร ช่วยให้การเข้าจอดในพื้นที่จำกัดสามารถทำได้ดียิ่งขึ้น ระบบอัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์ (ultrasonic sensors) สามารถช่วยค้นหาพื้นที่จอดที่เหมาะสมได้ในขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 35 กม./ชั่วโมง โดยเมื่อพบจุดจอดแล้ว ระบบจะทำการจอดรถเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเกียร์ หมุนพวงมาลัย ตลอดจนผ่อนคันเร่งหรือเบรกโดยอัตโนมัติ และในกรณีที่พื้นที่จอดรถทำมุมกับถนน ระบบจะต้องการพื้นที่ว่างด้านข้างตัวรถเพียงข้างละ 40 เซนติเมตรเท่านั้นในการทำงานแบบอัตโนมัติ
เช่นเดียวกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ รุ่นอื่น ๆ ข้อมูลระบบนำทาง โทรศัพท์ ระบบความบันเทิง และฟังก์ชันต่าง ๆ ของตัวรถ ถูกนำมารวมเข้าไว้กับหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ซึ่งนอกจากจะควบคุมโดยปุ่ม iDrive Controller ยังสามารถสั่งการด้วยการกดปุ่มบนหน้าจอ หรือด้วยระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) อีกด้วย ระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control) เสนอการใช้งานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสะดวกสบายในทุกฟังก์ชันด้วยการขยับมือหรือนิ้วมือเท่านั้น
บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport อวดความปราดเปรียวด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วลาย Double-Spoke ระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ (BMW Head-Up Display) หลังคากระจกเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า ขอบหน้าต่างภายนอกตกแต่งแบบ BMW Individual high-gloss พร้อมชุดตกแต่งภายนอก
M Aerodynamics ในขณะเดียวกันบีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลาย W-Spoke ชุดตกแต่งภายนอกแบบ chrome line ส่วนภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยไม้ในแบบ Fineline Ridge พร้อมแถบโครเมียม เสริมความหรูหราให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู 530e Luxury ราคาจำหน่าย 3,939,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ราคาจำหน่าย 3,639,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic)
บีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) เป็นสปอร์ตซีดานพันธุ์แท้ที่ออกแบบมาเพื่อที่สุดแห่งสุนทรียภาพการขับขี่ ประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี iPerformance ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบและเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู TwinPower Turbo ที่ทรงพลัง ส่งกำลังสูงสุดได้ถึง 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า พร้อมแรงบิด
290 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 65 กิโลวัตต์ / 89 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ทำงานประสานกันกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมให้สมรรถนะที่ตอบสนองได้ทันใจในเสี้ยววินาที ทั้งยังมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำเพียง 55.6 กิโลเมตรต่อลิตร และลดระดับมลภาวะในการขับขี่กับอัตราการปล่อย CO2 ที่ 42 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น แต่ยังคงความทรงพลังในสไตล์สปอร์ตด้วยอัตราเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.1 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) สามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป ใช้เวลาในการชาร์จให้เต็มประมาณ 3 ชั่วโมง หรือหากชาร์จด้วยอุปกรณ์บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์ เพียว (BMW i Wallbox Pure) ที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และรวดเร็วด้วยกำลังไฟถึง 3.7 กิโลวัตต์
(16 แอมป์/ 230 โวลท์) จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง
โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตที่สะดุดตา โฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลาย Double-Spoke พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบสปอร์ต ภายในตกแต่งด้วยวัสดุผิวหน้าอลูมิเนียมแต่งลายเส้นทางยาวพร้อมแถบโครเมียม เบาะนั่งปรับไฟฟ้าและระบบจำตำแหน่งสำหรับคนขับ จอภาพขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ทางการเงินจากบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชี่ยล เซอร์วิสให้เลือกสรร
ราคาจำหน่าย 2,259,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่
320d GT M Sport ใหม่ ผสมผสานพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางของรถยนต์สปอร์ต ซีดานและความจุสัมภาระของรถยนต์อเนกประสงค์ไว้ได้อย่างลงตัว เพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด
400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.7 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุด 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 27.0 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่ระดับการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 99 กรัมต่อกิโลเมตร
ด้วยความยาวของตัวรถ 4,824 มิลลิเมตร บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport จึงมีมิติความยาวของตัวถังที่ยาวกว่าบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 รุ่นอื่นๆราว 200 มิลลิเมตร นอกจากนี้ช่องเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ท้ายรถยังมีความจุสูงสุดถึง 1,600 ลิตร บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่จึงมีประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอย M Sport ลาย Double-spoke ขนาด 19 นิ้ว และขอบหน้าต่างแบบ High-Gloss Shadow Line พร้อมทั้งเติมเต็มลุคสปอร์ตด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics
ดีไซน์ภายในตัวรถบีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่ ประดับคอนโซลด้วยวัสดุ Aluminium ลายHexagon ตัดด้วยเส้นสายสีดำเงาเข้าชุดกับพวงมาลัยหนังแท้แบบ M Sport พร้อมแป้น gearshift paddle อีกทั้งยังมาพร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว ระบบนำทางล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู ระบบ
iDrive Touch Controller และฟังก์ชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมระบบบันเทิงและการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT M Sport ใหม่ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Servotronic ระบบไฟหน้า LED ปรับอัตโนมัติ และโหมดการขับขี่ Driving experience Control ต่าง ๆ
ราคาจำหน่าย 2,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)