Home กระแสยานยนต์ Meet The CEO เมื่อซีอีโอมาสด้ามาไทยพูดถึงสกายแอคทีพเจน 2

เมื่อซีอีโอมาสด้ามาไทยพูดถึงสกายแอคทีพเจน 2

สกายแอคทีพเจน2จะเริ่มหลังปี2019″มาซามิชิ โคไก”ประธานและซีอีโอ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นกล่าวไว้เมื่อครั้งมาเยือนไทย[fblike]

สกายแอคทีพ เทคโนโลยีที่ฟื้นมาสด้าให้เติบโตขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ทะยอยซื้อหุ้นตัวเองกลับจากพันธมิตรอย่างฟอร์ดได้สำเร็จ โลกยังอยู่ในช่วงสกายแอคทีพเจน1 มาซามิชิ โคไก ประธานและซีอีโอ  มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นเดินทางมาร่วมเปิดสายการผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ ณ โรงงานมาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอร์ริ่ง ณ.นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด  เปิดให้สัมภาษณ์พิเศษ  โดยเขาพูดถึงไทม์เฟรมของเทคโนโลยีอนาคตไว้อย่างน่าสนใจ

ประธานมาสด้าและประธานโตโยต้า ในการลงนามความร่วมมือแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระหว่าง2 ยีห่้อเมื่อเร็วๆ นี้
ประธานมาสด้าและประธานโตโยต้า ในการลงนามความร่วมมือแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระหว่าง2 ยีห่้อเมื่อเร็วๆ นี้

 

 

Q.การร่วมพันธมิตร กับโตโยต้ามีผลอย่างไรบ้างกับภูมิภาคอาเซียนบ้าง
A.ในการทำความร่วมมือกับโตโยต้าตามได้มีการประกาศไปเมื่อ พ.ค.2558 หลังจากประกาศนโยบายไป ขั้นตอนขณะนี้คือให้สองยี่ห้อได้ตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกันเราไม่ได้มองเฉพาะ เจาะจงว่าเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่เป็นการสร้างคณะทำงานเพื่อวางนโยบายว่าจะทำอะไรความร่วมมือกันจะเกิดขึ้นในส่วนไหนบ้าง ต้องรอข้อสรุปของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมากก่อน มีข้อสรุปเสียก่อนแล้วจึงจะสามารถแจ้งให้ทราบได้

 Q.เทคโนโลยี สกายแอคทีพจะพัฒนาไปอย่างไร

มาซามิชิ โคไก ประธานและซีอีโอ  มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น3
มาซามิชิ โคไก ให้สัมภาษณ์สื่อที่โรงงานผลิตเกียร์แห่งใหม่ ที่อีสเทิ่นซีบอร์ด
 A.หลังปี2019 ซึ่งส่วนหลังแผนระยะกลางแล้ว เป็นช่วงเวลาที่มาสด้าก็จะมองตัว  เทคโนโลยี สภายแอคทีพ นั่นหมายความว่า เราจะเริ่ม สกายแอคทีพ เจนเนอเรชั่นที่2 ที่จะมีการปรับปรุงเทคโนโลยีทั้งหมด ทุกระบบ  หมายถึง เป็นโปรดักซ์เจนเนอรืเนชั่นที่7ของมาสด้า แต่ในระหว่างแผนระยะกลางก็จะมีการใช้เทคโนโลยี สกายแอคทีพ เจนเนอเรชั่นปัจจุบัน โดยมุ่งมั่นใช้เทคโนโลยีนี้อยู่ เพื่อ พร้อมจะก้าวไปสู่เทคโนโลยีเจนเนอเรชั่นที่2  ปัจจุบันสกายแอคทีพเริ่มนำมาใช้ครอบคลุม รถทุกเซกเมนท์ หลักของมาสด้า ไม่ว่าจะเป็น ซีเซกเมนท์  ซีดี, ดี และเอสยูวี  ก้าวต่อไปคือการนำเอาเจนเนอเรชั่นที่ 2 เข้ามาใช้ทุกเซกเทนท์เช่นกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการประหยัดน้ำมันให้ได้มากยิ่งขึ้น   ข้อดีของการใช้เทคโนโลยีหลักแบบเดียวกัน ในทุกๆเซกเมนท์  จะทำให้มาสด้าสามารถโฟกัสไปที่กระบวนการผลิตเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงตลาดในอนาคตได้ดียิ่งขึ้นทั้งนี้ โครงสร้างของการพัฒนาการผลิตซึ่งไทยมีส่วนในแผนนี้ได้ถูกวางไว้แล้ว
 Q.บทบาทมาสด้าในประเทศไทยเป็นอย่างไร

MPMT 2015 for press (7)
มาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอร์ริ่ง ประเทศไทยแหล่งผลิตเกียร์และเครื่องยนต์ไฮเทคของมาสด้า
A.เรายืนยันว่าเราจะทุ่มเทและเดินหน้าที่จะพัฒนาการผลิต เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิต และเพื่อเป็นการสนับบสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน การที่มาสด้า ลงทุนเปิดโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติอย่างเป็นทางการ เป็นวางรากฐานการผลิตเพื่อยกระดับไทยให้เป็นฐานการผลิตเทียบเท่าในประเทศญี่ปุ่น สำหรับวิชั่นของมาสด้าคือ การวางกลยุทธ์การผลิตของมาสด้าทั่วโลก โดยมีการบริหารจัดการต้นทุนและโรงงานใหม่จะช่วยขับเคลื่อนให้มาสด้ามียอดการผลิตตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีพจากไทยจะถูกส่งออกไปยังโรงงานของมาสด้า 3แห่งคือเวียตนาม1จีน  2แห่ง และแม็กซิโก โดยโรงงานเกียร์ อัตโนมัติแห่งใหม่นี้เป็นเครื่องยืนยันว่ามาสด้าจะดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อลูกค้า เพื่อพนักงานและใช้ประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียนแห่งนี้

Q.ฐานการผลิตที่ไทยจะทดแทนการผลิตที่ญี่ปุ่นหรือไม่MPMT 2015 for press (4)

 A.ตอนนี้ระบบส่งกำลัง ทั้งหมดนั้น เรายัง ยึดญี่ปุ่นเป็นฐานสำคัญอยู่ อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันนับจากอดีต เมื่อที่ค่าเงินเยนแข็งค่า เราก็มีข้อจำกัดในเรื่องการผลิตเพื่อการส่งออก ดังนั้น มาสด้าเองจึงได้ตัดสินใจ สร้างฐานการผลิตขึ้นในประเทศไทย จีนและประเทศแม็กซิโก ทั้งสองส่วนนี้จะทำให้มีแมนนูเฟคเจอริ่ง ฟุตปรินท์แห่งที่2นอกประเทศญี่ปุ่น ในแผนการทำธุรกิจระยะกลาง เรามีแผนขยายการผลิต1.65ล่านคันซึ่งส่วนที่จะทำให้ทำการผลิตได้ตามแผน คือ การผลิตเกียร์ในไทยและการขยายกำลังการผลิตในประเทศแม็กซิโก

Q.กลยุทธ์หลักของมาสด้าปัจจุบันคืออะไร
A.แผนระยะกลางมีระยะเวลา3 ปี โดยมีแผนการขยายการผลิตรวมทั่วโลกให้ได้1.65 ล้านคัน และหลังแผนระยะกลางแล้วมาสด้าจะพิจารณา ขยายกำลังการผลิตโดยรวมอีกครั้งหนึ่ง”แน่นอนว่ากำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นเป็นไปได้ ไม่ได้มาจากกำลังการผลิตประเทศ ญี่ปุ่นจะเป็นกำลังการผลิตที่มาจากประเทศไทยเพราะฉนั้น ประเทศไทยเป็นเหมือนยุทธศาสตร์ของมาสด้าของมาสด้าอย่างแท้จริง

Q.ปัจจุบันมาสด้า มีกำลังการผลิตเท่าไร
A.กำลังการผลิตรวมของมาสด้าทั่วโลก ปีล่ะ 9.96แสนคัน อยู่ในญี่ปุ่น 4 แสน คัน ในแม็กซิโก  2.5 แสนคัน  ในไทย 1.4แสนคัน

Q.ปีที่แล้วโดยรวมมีการขายกี่คัน
A.มาสด้ามียอดขายได้ในปีงบประมาณ (เม.ย.57- มี.ค.58 ) จำนวน 1.39 ล้านคัน

 Q.มาสด้ามีเป้าหมายการขายระดับโลกอย่างไร
A.ปัจจุบันมาสด้ามีเป้าหมายการขาย1.49ล้านคันเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนหน้าที่ทำได้1.39 ล้านคัน ส่วนในระยะยาวจะทำยอดให้ได้ 1.65 ล้านคัน
Q.เศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่ชะลอตัวมีผลอย่างไรต่อมาสด้า
A.เป็นที่ทราบกันดีว่ากลุ่มประเทศเหล่านั้น มีแนวโน้มดีมาก แต่เศรษฐกิจก็ตกลง  แต่ล่ะประเทศสถานการณ์ไม่เหมือนกันเรากำลังจับตาดูอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเปลี่ยนแปลงของความต้องการการซื้อรถใหม่  ในปัจจุบันมาสด้าได้เพิ่มคุณค่าและเอกลักษณ์ของแบรนด์เพิ่มขึ้น ทำให้เรายังสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดได้ และในบางตลาดเราสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้นี่คือ ความแตกต่างที่มาสด้าทำอยู่ตอนนี้  นอกเหนือจากการผลิตรถที่มึเอกลักษณ์ มีเทคโนโลยี คือ การทำการตลาดโดยเน้นการบริการหลังการขาย การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้า ใช้รถแล้วกลับเข้ามาหาเราอีกเป็นวงจรที่เราพยามตอกย้ำและที่สำคัญเรามีนโยบายที่ชัดเจนในการสร้างคุณค่าของแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จัก
Q.มาสด้า มีแผนเพิ่มการผลิตในภูมิภาคอาเซียนอย่างไรบ้าง
A.ในภูมิภาคมาสด้ามีกำลังการผลิต  1.7แสนคันต่อปีโดยแบ่งเป็นไทย(เอเอที ระยอง) จำนวน 1.4แสนคัน มาเลเซีย2หมื่นคันเวียนตนาม 1 หมื่นคันและในปี2019 เราจะมาทบทวนอีกครั้งว่าจะมีการเพิ่มการผลิตหรือไม่อย่างไร

Q.เป้าหมายการขายในภูมิภาค ดูแล้วอาจไม่บรรลุผล มีการแผนวางรองรับไว้อย่างไร
A.เรามองว่าแนวโน้มตลาดอาจจะลดลงแต่ เรื่องการตอบรับสกายแอคทีพ และรถใหม่ยังดีอยู่ส่วนเป้าหมายของเราในภูมิภาคนี้ตั้งไว้ 1-2แสนคันในอนาคต


 ขอบคุณคุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย

 

 

Previous articleเวสป้าเซอไพรส์สาวกเปิดตัว S-Series
Next articleชมภาพส่งท้าย งานบิ๊ก มอเตอร์ เซลส์ 2015