NEW MG6 – Power to Controlนิยามใหม่แห่งสมรรถนะและความสะดวกสบายที่รองรับทุกพลังการควบคุม
เอ็มจี 6 (NEW MG6) ได้เวลาในการเปลี่ยนแปลงแบบ MC โดยที่ทั้งแบบซีดานและฟาสต์แบ็ค ได้รับการปรับปรุงโฉมทั้งภายนอกและภายในเพื่อ เพิ่มความสปอร์ตเร้าใจ อย่างมีสไตล์ ชัดเจนในทุกมุมมอง MG6 สะท้อนที่สุดแห่งปรัชญาการออกแบบด้วย Brit Dynamic ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบ สมรรถนะ การบังคับควบคุม และความปลอดภัย พร้อมระบบ inkaNet นวัตกรรมระบบการสื่อสารอัจฉริยะระหว่างผู้ขับขี่กับรถยนต์เอ็มจีที่ทำงานบนเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย
ดีไซน์ภายนอก
ด้วยแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์อย่างสูงสุด NEW MG6 มาพร้อมกับเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา พร้อมกันชนหน้าที่ถูกออกแบบใหม่ สวย ทันสมัย รับกับโลโก้ เอ็มจี ที่โดดเด่นบนกระจังหน้า ปราดเปรียวด้วยเส้นโค้งหลังคาที่ลาดลงจรดกระโปรงท้ายอย่างลื่นไหล มาพร้อมกับกันชนหลังและไฟท้ายดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยวสไตล์ยุโรป เพิ่มเติมด้วยไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED และล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่แบบทูโทน ช่วยสร้างบุคลิกที่ชัดเจนให้กับ NEW MG6 มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มี 5 สีให้เลือก คือ ขาว ดำ แดง เทา และเงิน พิเศษสุดในรุ่นฟาสต์แบค สปอร์ตเร้าใจเต็มพิกัดด้วยสีพิเศษแบบทูโทน – ตัวรถสีขาวหลังคาดำ
สปอร์ตพรีเมียมในทุกรายละเอียดด้วยไฟหน้าแบบ Bi-Xenon HID ทันสมัยและให้ความสว่างที่มากกว่า พร้อมระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า (Headlight Washer) เพิ่มความโดดเด่นและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Lights)
ภายในดีไซน์ใหม่ 2 บุคลิก 2 โทนสี ทั้งโทนสีดำและสีเบจ โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยคอนโซลหน้าสีเทาเข้มพร้อมจอมาตรวัดดีไซน์ใหม่ ครบทุกฟังก์ชันความบันเทิงทั้ง CD และ MP3 หน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง บลูทูธ กล้องมองหลัง และลำโพงคุณภาพสูง 8 ตำแหน่ง รองรับ USB และ AUX ช่วยเพิ่มความบันเทิงและความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง
ภายในกว้างขวางสะดวกสบาย แต่ยังคงความสปอร์ตพรีเมียม เบาะที่นั่งสบายกระชับรับสรีระปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง สำหรับที่นั่งตอนหน้า (เฉพาะรุ่น X) แผงประตูดีไซน์ใหม่ พร้อมเบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone สามารถแยกปรับระดับอุณหภูมิได้อย่างอิสระสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและผู้ขับขี่ หลังคาซันรูฟปรับด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ในทุกการเดินทาง นอกจากนี้ NEW MG6 ยังติดตั้งแผงบังแดดด้านหลังในรุ่นซีดาน (เฉพาะรุ่น X) อีกด้วย
Performance – ขุมพลังแรงให้การควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกเส้นทาง
เครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 161 แรงม้า (118 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 NEW MG6 มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด DCT (Dual Clutch Transmission) ช่วยลดระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ลงเหลือเพียง 0.2 วินาที ทำให้ NEW MG6 นุ่มนวลในทุกการขับขี่ อีกทั้งยังช่วยลดอัตราการสิ้นเปลือง สปอร์ตเร้าใจเพิ่มขึ้นด้วยโหมดการขับขี่แบบ Sport และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นปรับระดับ 4 ทิศทางพร้อม Paddle Shift ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
Handling – ความประณีตที่ผสานกับดีไซน์เพื่อรองรับทุกพลังแห่งการควบคุม
NEW MG6 รองรับทุกพลังแห่งการควบคุมด้วยช่วงล่างแบบ European Tuning Suspension ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท (MacPherson Strut) ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ แซ็ด-ไทป์ มัลติลิงค์ (Z-Type Multi – Link) ที่สามารถตอบสนองทุกการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์ NEW MG6 อย่างแท้จริง
ระบบช่วงล่างและกันสะเทือนของ NEW MG6 ประกอบไปด้วย
- ระบบกันสะเทือนหน้าหลังที่มาพร้อมเหล็กกันโคลง เพื่อการขับขี่ที่ดีและเสถียรภาพของรถ
- ขนาดที่เหมาะสมของเหล็กกันโคลง ทำหน้าที่ช่วยเหลือการควบคุมรถขณะเข้าโค้ง
- ช่วงล่างแบบอิสระช่วยลดการสั่นสะเทือน สร้างสมดุลของโช้คอัพ สามรถปรับให้ยืดหยุ่นตามสภาพถนน
Safety – ความปลอดภัยที่ควบคุมได้… ทุกสถานการณ์
NEW MG6 ยังเหนือระดับด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีก 5 ฟังก์ชั่น
- ระบบ Auto Hold เพิ่มความสะดวกในการขับขี่ ให้คุณไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ในช่วงการจราจรติดขัด และเมื่อแตะคันเร่ง รถจะออกตัวอย่างนุ่มนวล
- ระบบควบคุมแรงบิดของล้อในขณะเข้าโค้ง DWTC (Dynamic Wheel Torque Control) ช่วยเพิ่มความมั่นคง ความคล่องตัวและความปลอดภัยเมื่อเข้าโค้ง
- ระบบแจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัยหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ (Steering Wheel Reminder) ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อพวงมาลัยถูกหมุนไปจากทิศทางตรงเกินกว่า 90 องศา เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุขณะออกตัว
- ไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยว (Cornering Lights) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืนขณะเลี้ยว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto-Leveling Headlights) ช่วยป้องกันไม่ให้แสงจากไฟหน้ารบกวนผู้ขับขี่คันหน้า หรือผู้ที่ขับขี่ในฝั่งตรงข้าม
ระบบความปลอดภัยแบบหลังการเกิดอุบัติเหตุ (Passive Safety Systems)
NEW MG6 ให้ความมั่นใจด้วยนวัตกรรมการออกแบบตัวถัง USD (Ultimate Stiffness Design) โครงสร้างทำจากเหล็กที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ พร้อมคานเหล็กนิรภัยที่ช่วยรับแรงกระแทกจากด้านข้างและถุงลมนิรภัย 6 ลูก ปกป้องห้องโดยสารให้เป็นโซนนิรภัยขณะเกิดอุบัติเหตุ เบาะที่นั่งยังถูกออกแบบให้รองรับกับสรีระของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ และวาล์วตัดการทำงานของน้ำมันเชื้อเพลิง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยตามมาตรฐานยุโรป
ระบบความปลอดภัยแบบป้องกันอุบัติเหตุ (Active Safety Systems)
NEW MG6 ยังคงอัดแน่นเต็มพิกัดด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย10 ฟังก์ชัน ได้แก่
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรคฉุกเฉิน (ABS – Anti-lock Braking System)
- ระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD – Electronic Brake Force Distribution)
- ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS – Stability Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC – Curve Brake Control)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (Motor Control Slide Retainer)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS – Traction Control System)
- ระบบทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ (BDC – Brake Disc Cleaning)
- ระบบเสริมแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBA – Electronic Brake Assist)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS – Hill Start Assist System)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (ITPMS – Indirect Tire Pressure Monitor System)
inkaNet ควบคุมได้…ทุกที่ทุกเวลา
inkaNet เทคโนโลยีอัจฉริยะแบบเรียลไทม์ที่ให้คุณเชื่อมต่อ สื่อสาร สั่งการรถยนต์ NEW MG6 ของคุณได้ทุกที่ ทุกเวลา – ครั้งแรกของรถยนต์ NEW MG6 ในเมืองไทย
inkaNet ไม่ใช่เป็นแค่แอพพลิเคชัน แต่เป็นระบบที่ใช้สื่อสารระหว่างรถยนต์ NEW MG6 กับผู้ขับขี่ โดยเชื่อมต่อกันผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย ที่ให้ความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับรถ สถานะของรถ การจราจร เส้นทาง ระบบนำทางที่สามารถกำหนดเพิ่มเติมสถานที่ที่สนใจของผู้ขับขี่ได้ด้วยตัวเอง โดยผู้ใช้สามารถใช้งานและสั่งการได้ผ่านทางสมาร์ทโฟนและหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อความสะดวก ปลอดภัย และวางใจได้ในการขับขี่ในทุกการเดินทาง
IkaNet เป็นนวัตกรรมที่ เอสเอไอซี มอเตอร์ (SAIC Motor) พัฒนาขึ้นและเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2553 ในช่วงแรกฟังก์ชั่นหลักของ inkaNet เน้นความบันเทิงแบบ Real-Time ด้วยการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จากนั้น เอสเอไอซี มอเตอร์ ยังได้ค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มฟังก์ชั่นระบบนำทาง และระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานวงการยานยนต์รวมทั้งของประเทศไทยอีกด้วย
inkaNet ทำงานอย่างไร
รถยนต์ NEW MG6 ที่มีระบบ inkaNet จะติดตั้งกล่องควบคุมที่เรียกว่า T-Box และเป็นตัวกลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างรถยนต์กับผู้ขับขี่ โดยผู้ใช้สามารถใช้งานระบบ inkaNet ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่
- Application inkaNet บนสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
- Website (www.mgcars.com) ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์
- MG Call Centre (1-800-999-988 , 1-401-999-988 กด 3)
inkaNet มีจุดเด่นและประโยชน์ต่อผู้ขับขี่รถยนต์ NEW MG6 อย่างไร
ฟังก์ชั่นเด่นที่ให้บริการข้อมูลรถยนต์และความปลอดภัยของรถยนต์ NEW MG6 ได้แก่
- ตรวจสอบสถานะของรถยนต์ (Vehicle Status Update) ฟังก์ชั่นนี้จะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบสถานะปัจจุบันของรถยนต์ อาทิ ระยะทาง ประตูปิดสนิทหรือไม่ ประตูล็อกแล้วหรือไม่ กำลังไฟที่เหลือในแบตเตอรี่ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และอุณหภูมิภายนอกรถ โดยผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะดังกล่าวได้ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ NEW MG6
- การควบคุมการทำงานของรถ (Remote Vehicle Control) ฟังก์ชั่นนี้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ในการสั่งล็อก/ปลดล็อกรถได้จากระยะไกลผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนและผ่าน MG Call Centre นอกจากนี้ยังช่วยค้นหารถในที่มืดได้อีกด้วยโดยใช้ฟังก์ชัน Find My Car ซึ่งระบบจะสั่งให้รถเปิดไฟหน้า ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหารถได้ง่ายยิ่งขึ้น
ระบบการเตือนความผิดปกติของรถยนต์ (Vehicle Alarm)
ระบบรักษาความปลอดภัยที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่รถของคุณ ดังนี้
- เตือนเคลื่อนไหวผิดปกติ:เมื่อรถยนต์มีการเคลื่อนที่ผิดปกติ
- เตือนรถยนต์ติดเครื่อง:ทันทีที่มีการติดเครื่องยนต์
ระบบจะส่งข้อความแจ้งเตือนความผิดปกติดังกล่าวข้างต้น ผ่านทาง SMS และ Push Notification บน แอพพลิเคชันผ่านทางสมาร์ทโฟน เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับทราบ
- ระบบนำทางและ ติดตามรถยนต์แบบ Real-Time (Real-time Vehicle Monitoring) ฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามตำแหน่งของรถได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ในกรณีทีรถถูกขโมย ผู้ใช้สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือเบื้องต้นผ่าน MG Call Center ในการช่วยติดตามและแจ้งตำแหน่งของรถ รวมถึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามรถที่ถูกขโมยไปได้อีกด้วย
- การตรวจวิเคราะห์รถยนต์ (Remote Vehicle Diagnosis) ฟังก์ชั่นนี้ช่วยอำนวยความสะดวกในกรณีที่เกิดความผิดปกติระหว่างการขับขี่ โดยผู้ขับขี่สามารถตรวจเช็คความผิดปกติในการทำงานของรถยนต์ อาทิ เครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบถุงลมนิรภัย ผ่านทางแอพพลิเคชัน หรือ ติดต่อ MG Call Center เพื่อขอรับคำแนะนำเบื้องต้นได้เช่นกัน
ฟาสต์แบ็ค (Fastback) | ซีดาน (Sedan) | |
1.8 รุ่น C | 828,000 บาท | 818,000 บาท |
1.8 รุ่น D | 908,000 บาท | 898,000 บาท |
1.8 รุ่น D Sunroof | 938,000 บาท | 928,000 บาท |
1.8 รุ่น X | 1,008,000 บาท | 998,000บาท |
1.8 X Sunroof | 1,038,000 บาท | 1,028,000 บาท |
หมายเหตุ :
- รับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- บริการเช็คระยะนอกสถานที่ (Mobility Services) เมื่อมีการโทรแจ้งนัดหมาย
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง
- บริการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (MG Call Center) ตลอด 24 ชั่วโมง
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า