Home รถยนต์ รถใหม่ไทยแลนด์ เปิดตัว MG6 2015

เปิดตัว MG6 2015

NEW MG6 – Power to Controlนิยามใหม่แห่งสมรรถนะและความสะดวกสบายที่รองรับทุกพลังการควบคุม

 เอ็มจี 6 (NEW MG6) ได้เวลาในการเปลี่ยนแปลงแบบ MC โดยที่ทั้งแบบซีดานและฟาสต์แบ็ค ได้รับการปรับปรุงโฉมทั้งภายนอกและภายในเพื่อ เพิ่มความสปอร์ตเร้าใจ อย่างมีสไตล์ ชัดเจนในทุกมุมมอง MG6 สะท้อนที่สุดแห่งปรัชญาการออกแบบด้วย Brit Dynamic ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบ สมรรถนะ การบังคับควบคุม และความปลอดภัย พร้อมระบบ inkaNet นวัตกรรมระบบการสื่อสารอัจฉริยะระหว่างผู้ขับขี่กับรถยนต์เอ็มจีที่ทำงานบนเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย1-MG6 Fastback 1.8 - Copy

 

ดีไซน์ภายนอก  

ด้วยแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์อย่างสูงสุด NEW MG6 มาพร้อมกับเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา พร้อมกันชนหน้าที่ถูกออกแบบใหม่ สวย ทันสมัย รับกับโลโก้ เอ็มจี ที่โดดเด่นบนกระจังหน้า ปราดเปรียวด้วยเส้นโค้งหลังคาที่ลาดลงจรดกระโปรงท้ายอย่างลื่นไหล มาพร้อมกับกันชนหลังและไฟท้ายดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยวสไตล์ยุโรป เพิ่มเติมด้วยไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED และล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่แบบทูโทน ช่วยสร้างบุคลิกที่ชัดเจนให้กับ NEW MG6 มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม  มี 5 สีให้เลือก คือ ขาว ดำ แดง เทา และเงิน  พิเศษสุดในรุ่นฟาสต์แบค สปอร์ตเร้าใจเต็มพิกัดด้วยสีพิเศษแบบทูโทนตัวรถสีขาวหลังคาดำ

สปอร์ตพรีเมียมในทุกรายละเอียดด้วยไฟหน้าแบบ Bi-Xenon HID ทันสมัยและให้ความสว่างที่มากกว่า พร้อมระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า (Headlight Washer) เพิ่มความโดดเด่นและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Lights)

ดีไซน์ภายใน1-New MG6_1 - Copy

ภายในดีไซน์ใหม่ 2 บุคลิก 2 โทนสี ทั้งโทนสีดำและสีเบจ โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยคอนโซลหน้าสีเทาเข้มพร้อมจอมาตรวัดดีไซน์ใหม่ ครบทุกฟังก์ชันความบันเทิงทั้ง CD และ MP3 หน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง       บลูทูธ กล้องมองหลัง และลำโพงคุณภาพสูง 8 ตำแหน่ง รองรับ USB และ AUX ช่วยเพิ่มความบันเทิงและความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง

ภายในกว้างขวางสะดวกสบาย แต่ยังคงความสปอร์ตพรีเมียม เบาะที่นั่งสบายกระชับรับสรีระปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง สำหรับที่นั่งตอนหน้า (เฉพาะรุ่น X) แผงประตูดีไซน์ใหม่ พร้อมเบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ  สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone สามารถแยกปรับระดับอุณหภูมิได้อย่างอิสระสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและผู้ขับขี่ หลังคาซันรูฟปรับด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ในทุกการเดินทาง นอกจากนี้ NEW MG6 ยังติดตั้งแผงบังแดดด้านหลังในรุ่นซีดาน (เฉพาะรุ่น X) อีกด้วย

Performance – ขุมพลังแรงให้การควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกเส้นทาง

เครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 161 แรงม้า (118 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 NEW MG6 มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด DCT (Dual Clutch Transmission) ช่วยลดระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ลงเหลือเพียง 0.2 วินาที ทำให้ NEW MG6 นุ่มนวลในทุกการขับขี่ อีกทั้งยังช่วยลดอัตราการสิ้นเปลือง สปอร์ตเร้าใจเพิ่มขึ้นด้วยโหมดการขับขี่แบบ Sport และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นปรับระดับ 4 ทิศทางพร้อม Paddle Shift ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

Handling – ความประณีตที่ผสานกับดีไซน์เพื่อรองรับทุกพลังแห่งการควบคุม

NEW MG6 รองรับทุกพลังแห่งการควบคุมด้วยช่วงล่างแบบ European Tuning Suspension ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท (MacPherson Strut) ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ แซ็ด-ไทป์ มัลติลิงค์ (Z-Type Multi – Link) ที่สามารถตอบสนองทุกการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์ NEW MG6 อย่างแท้จริง

ระบบช่วงล่างและกันสะเทือนของ NEW MG6 ประกอบไปด้วย

  • ระบบกันสะเทือนหน้าหลังที่มาพร้อมเหล็กกันโคลง เพื่อการขับขี่ที่ดีและเสถียรภาพของรถ
  • ขนาดที่เหมาะสมของเหล็กกันโคลง ทำหน้าที่ช่วยเหลือการควบคุมรถขณะเข้าโค้ง
  • ช่วงล่างแบบอิสระช่วยลดการสั่นสะเทือน สร้างสมดุลของโช้คอัพ สามรถปรับให้ยืดหยุ่นตามสภาพถนน

Safety – ความปลอดภัยที่ควบคุมได้… ทุกสถานการณ์

NEW MG6 ยังเหนือระดับด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีก 5 ฟังก์ชั่น

  • ระบบ Auto Hold เพิ่มความสะดวกในการขับขี่ ให้คุณไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ในช่วงการจราจรติดขัด และเมื่อแตะคันเร่ง รถจะออกตัวอย่างนุ่มนวล
  • ระบบควบคุมแรงบิดของล้อในขณะเข้าโค้ง DWTC (Dynamic Wheel Torque Control) ช่วยเพิ่มความมั่นคง ความคล่องตัวและความปลอดภัยเมื่อเข้าโค้ง
  • ระบบแจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัยหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ (Steering Wheel Reminder) ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อพวงมาลัยถูกหมุนไปจากทิศทางตรงเกินกว่า 90 องศา เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุขณะออกตัว
  • ไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยว (Cornering Lights) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืนขณะเลี้ยว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
  • ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto-Leveling Headlights) ช่วยป้องกันไม่ให้แสงจากไฟหน้ารบกวนผู้ขับขี่คันหน้า หรือผู้ที่ขับขี่ในฝั่งตรงข้าม

ระบบความปลอดภัยแบบหลังการเกิดอุบัติเหตุ (Passive Safety Systems)

NEW MG6 ให้ความมั่นใจด้วยนวัตกรรมการออกแบบตัวถัง USD (Ultimate Stiffness Design) โครงสร้างทำจากเหล็กที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ พร้อมคานเหล็กนิรภัยที่ช่วยรับแรงกระแทกจากด้านข้างและถุงลมนิรภัย 6 ลูก ปกป้องห้องโดยสารให้เป็นโซนนิรภัยขณะเกิดอุบัติเหตุ เบาะที่นั่งยังถูกออกแบบให้รองรับกับสรีระของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ และวาล์วตัดการทำงานของน้ำมันเชื้อเพลิง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยตามมาตรฐานยุโรป

ระบบความปลอดภัยแบบป้องกันอุบัติเหตุ (Active Safety Systems)

NEW MG6 ยังคงอัดแน่นเต็มพิกัดด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย10 ฟังก์ชัน ได้แก่

  • ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรคฉุกเฉิน (ABS – Anti-lock Braking System)
  • ระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD – Electronic Brake Force Distribution)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS – Stability Control System)
  • ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC – Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (Motor Control Slide Retainer)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS – Traction Control System)
  • ระบบทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ (BDC – Brake Disc Cleaning)
  • ระบบเสริมแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBA – Electronic Brake Assist)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS – Hill Start Assist System)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (ITPMS – Indirect Tire Pressure Monitor System)

inkaNet ควบคุมได้…ทุกที่ทุกเวลา

inkaNet เทคโนโลยีอัจฉริยะแบบเรียลไทม์ที่ให้คุณเชื่อมต่อ สื่อสาร สั่งการรถยนต์ NEW MG6 ของคุณได้ทุกที่ ทุกเวลา – ครั้งแรกของรถยนต์ NEW MG6 ในเมืองไทย

inkaNet ไม่ใช่เป็นแค่แอพพลิเคชัน แต่เป็นระบบที่ใช้สื่อสารระหว่างรถยนต์ NEW MG6 กับผู้ขับขี่ โดยเชื่อมต่อกันผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย ที่ให้ความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับรถ สถานะของรถ การจราจร เส้นทาง ระบบนำทางที่สามารถกำหนดเพิ่มเติมสถานที่ที่สนใจของผู้ขับขี่ได้ด้วยตัวเอง  โดยผู้ใช้สามารถใช้งานและสั่งการได้ผ่านทางสมาร์ทโฟนและหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อความสะดวก ปลอดภัย และวางใจได้ในการขับขี่ในทุกการเดินทาง

IkaNet เป็นนวัตกรรมที่ เอสเอไอซี มอเตอร์ (SAIC Motor) พัฒนาขึ้นและเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2553  ในช่วงแรกฟังก์ชั่นหลักของ inkaNet เน้นความบันเทิงแบบ Real-Time ด้วยการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต  จากนั้น เอสเอไอซี มอเตอร์ ยังได้ค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มฟังก์ชั่นระบบนำทาง และระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานวงการยานยนต์รวมทั้งของประเทศไทยอีกด้วย

inkaNet ทำงานอย่างไร

รถยนต์ NEW MG6 ที่มีระบบ inkaNet  จะติดตั้งกล่องควบคุมที่เรียกว่า T-Box และเป็นตัวกลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างรถยนต์กับผู้ขับขี่ โดยผู้ใช้สามารถใช้งานระบบ inkaNet ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่

  1. Application inkaNet บนสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
  2. Website (www.mgcars.com) ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์
  3. MG Call Centre (1-800-999-988 , 1-401-999-988 กด 3)

inkaNet มีจุดเด่นและประโยชน์ต่อผู้ขับขี่รถยนต์ NEW MG6 อย่างไร

ฟังก์ชั่นเด่นที่ให้บริการข้อมูลรถยนต์และความปลอดภัยของรถยนต์ NEW MG6 ได้แก่

  • ตรวจสอบสถานะของรถยนต์ (Vehicle Status Update) ฟังก์ชั่นนี้จะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบสถานะปัจจุบันของรถยนต์ อาทิ ระยะทาง ประตูปิดสนิทหรือไม่ ประตูล็อกแล้วหรือไม่ กำลังไฟที่เหลือในแบตเตอรี่ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และอุณหภูมิภายนอกรถ โดยผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะดังกล่าวได้ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ NEW MG6  
  • การควบคุมการทำงานของรถ (Remote Vehicle Control) ฟังก์ชั่นนี้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ในการสั่งล็อก/ปลดล็อกรถได้จากระยะไกลผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนและผ่าน MG Call Centre นอกจากนี้ยังช่วยค้นหารถในที่มืดได้อีกด้วยโดยใช้ฟังก์ชัน Find My Car ซึ่งระบบจะสั่งให้รถเปิดไฟหน้า ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหารถได้ง่ายยิ่งขึ้น

 ระบบการเตือนความผิดปกติของรถยนต์ (Vehicle Alarm)

ระบบรักษาความปลอดภัยที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่รถของคุณ ดังนี้

  • เตือนเคลื่อนไหวผิดปกติเมื่อรถยนต์มีการเคลื่อนที่ผิดปกติ
  • เตือนรถยนต์ติดเครื่องทันทีที่มีการติดเครื่องยนต์

ระบบจะส่งข้อความแจ้งเตือนความผิดปกติดังกล่าวข้างต้น ผ่านทาง SMS และ Push Notification บน           แอพพลิเคชันผ่านทางสมาร์ทโฟน เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับทราบ

  • ระบบนำทางและ ติดตามรถยนต์แบบ Real-Time (Real-time Vehicle Monitoring) ฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามตำแหน่งของรถได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ในกรณีทีรถถูกขโมย ผู้ใช้สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือเบื้องต้นผ่าน MG Call Center ในการช่วยติดตามและแจ้งตำแหน่งของรถ รวมถึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามรถที่ถูกขโมยไปได้อีกด้วย
  • การตรวจวิเคราะห์รถยนต์ (Remote Vehicle Diagnosis) ฟังก์ชั่นนี้ช่วยอำนวยความสะดวกในกรณีที่เกิดความผิดปกติระหว่างการขับขี่ โดยผู้ขับขี่สามารถตรวจเช็คความผิดปกติในการทำงานของรถยนต์ อาทิ เครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบถุงลมนิรภัย ผ่านทางแอพพลิเคชัน หรือ ติดต่อ MG Call Center เพื่อขอรับคำแนะนำเบื้องต้นได้เช่นกัน

 

ฟาสต์แบ็ค (Fastback) ซีดาน (Sedan)
1.8 รุ่น C 828,000 บาท 818,000  บาท
1.8 รุ่น D 908,000  บาท 898,000  บาท
1.8 รุ่น D Sunroof 938,000  บาท 928,000  บาท
1.8 รุ่น X 1,008,000 บาท 998,000บาท
1.8 X Sunroof 1,038,000  บาท 1,028,000  บาท

หมายเหตุ :

  • รับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  • บริการเช็คระยะนอกสถานที่ (Mobility Services) เมื่อมีการโทรแจ้งนัดหมาย
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง
  • บริการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (MG Call Center) ตลอด 24 ชั่วโมง
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
Previous articleเชฟโรเลต พร้อมเปิดตัวครูซ ปี 2015
Next articleเปิดแผนรถใหม่ทาทา 2015