ฮุนได เป็นเจ้าตลาดเอ็มพีวีหรือรถเอนกประสงค์ขนาดใหญ่ โดยมีรถรุ่น เอช-วันและ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ (บนพื้นฐานเดียวกัน) การเปลี่ยนแปลงใหม่ล่าสุดได้แก่การ แนะนำรถปี2018 เข้าตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อ 9 ส.ค.61 โดยมีการเปิดตัวที่ที่อาคาร เพิร์ล แบงก์ค็อค(พหลโยธิน)ผู้จำหน่ายและผู้นำเข้าคือ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทในเครือSojitz Corporation เทรดดิ้งขนาดใหญ่จากญี่ปุ่น ในฐานะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ฮุนได เอช-วันและแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ โฉมใหม่ปรับปรุง ในหลายๆ ด้านรวมถึงราคาที่เปลี่ยนแปลงใหม่บางส่วนด้วย
นับตั้งแต่รถทั้งสองรุ่นที่เปิดตัวในปี 2551และ 2553ฮุนไดเอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ได้กลายเป็นตัวเลือกรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าที่ชื่นชอบความสะดวกสบายและคุ้มค่า
ใช้หน้าร่วมกันสองรุ่น
การเปลี่ยนภายนอกของฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ใหม่ ที่เห็นได้ชัดคน การใช้การออกแบบด้านหน้าร่วมกัน เรียกว่าแยกไม่ออกระหว่าง รถสองรุ่น
ด้่านหน้าใหม่ถูกออกแบบให้มีความโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น กระจังหน้าโครเมียมแนวนอน ทอดยาวข้ามไปสุดสองฝั่งของรถ ช่วยดูแข็งแกร่งและมีพลังโคมไฟหน้าพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์เลนส์และไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ กระโปรงหน้าและกันชนใหม่ดูโดดเด่น พร้อมด้วยล้ออัลลอยขนาด 16 และ 17นิ้ว ดีไซน์ใหม่ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวถูกออกแบบใหม่ให้มีความโค้งมนมากขึ้น ไฟท้าย LEDดีไซน์ใหม่ เพิ่มความหรูหรา มีระดับอย่างลงตัว
ภายในห้องโดยสารของฮุนได เอช-วันและ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ใหม่ ออกแบบเบาะหนังลายใหม่และลายไม้แบบใหม่ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยระบบระบายอากาศสำหรับที่นั่งผู้ขับขี่ สามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ, พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทางตามสรีระผู้ขับขี่ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, ระบบควบคุมการเปิด -ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และระบบช่วยควบคุมการทรงตัว (ESP) เป็นต้น
รู้จักไลน์เอช-วัน
รถสองร่นนั้นมีโครงสร้างคล้ายๆกันแต่หากจะแยกความต่างจะเห้นการวางตำแหน่งต่างกันด้วยจำนวนที่นั่งดังนี้ (จำนวนที่นั่งภายในห้องโดยสารยังคงเหมือนรุ่นก่อนหน้า)
แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง
มีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นพรีเมี่ยม และ วีไอพี(มีสีตัวถังให้เลือก3สี ได้แก่ Arctic White, Hyper Metallic และTimeless Black)
เอช-วัน สามารถรองรับ 11 ที่นั่ง
มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ เดอลุกซ์, อีลิท และทัวริ่ง (มีสีตัวถังให้เลือก3สี ได้แก่ Hyper Metallic, Timeless Black และ Tan Brown)
สี่สูบดีเซล 2.5 ลิตรเทอร์โบร์เดิม
ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ลิตร 4สูบ 16วาล์ว CRDI พร้อมเทอร์โบแปรผันVGT อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 441นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5สปีด พร้อมระบบ Sequential shift สำหรับเครื่องดีเซลเทอร์โบของฮุนได ถือว่า มีประสิทธิภาพแม้จะมีขนาด2.5ลิตร แต่ให้อัตราแร่งและแรงบิดที่ดี
ฟังก์ชั่นความบันเทิงมาครบ
สำหรับการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของ ความบันเทิงและอินโฟเทรนเมนท์ต่างๆ รถปี 18 ยังคงมีฟังก์ชั่นที่พร้อมโดยฮุนได เอช-วันและ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ยังมีเทคโนโลยีระบบกล้องมองรอบทิศทางอัจฉริยะ, ประตูเลื่อนแบบไฟฟ้า ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียงผ่านหน้าจอความละเอียดสูงขนาด8 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wifi สำหรับห้องโดยสารตอนหลัง ติดตั้งจอ LCD แบบคมชัดขนาด 13.3 นิ้ว ติดเพดานแบบพับไฟฟ้า
ราคาจำหน่ายฮุนได เอช–วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์
รุ่นรถ |
ราคา |
ราคาเปลี่ยนแปลง-บาท(%) |
แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ วีไอพี | 2,399,000 บาท |
เท่าเดิม |
แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ พรีเมี่ยม | 2,349,000 บาท |
เท่าเดิม |
H-1 เดอลุกซ์ | 1,729,000 บาท |
+50,000(2.89%) |
H-1 อีลิท | 1,529,000 บาท |
+30,000(1.69%) |
H-1 ทัวริ่ง | 1,329,000 บาท |
+40,000(3.01% ) |
คู่แข่งโดยตรงของฮุนได ทั้ง2 รุ่นคือรถเอ็มพีวี ขนาดใหญ่ในตลาดประกอบไปด้วย โตโยต้า อัลฟาร์ด โฟล์ค สวาเก้นท์ เมอร์เซเดส -เบนซ์ เวนโต้