ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ประกาศลงทุน 100 ล้านบาท เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ บนพื้นที่กว่า 4000 ตรม. บนถนนพระรามเก้าพร้อมเดินหน้าแผนขยายสาขาสู่ภูมิภาค ตั้งเป้า 5 สาขาภายในปี
เค็น เสวนสัน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พาวเว่อร์สเตชั่น มอเตอร์สปอร์ต จำกัด ผู้จัดหน่าย ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเปิดโชว์รูมต้นแบบ( Flagship store )และศูนย์บริการแห่งใหม่บนถนนพระรามเก้าใกล้ New CBD (New Central Business downtown) ที่ถือเป็นเขตธุรกิจใหม่ บนพื้นที่ประมาณ 4000 ตรม.โดยใช้ชื่อว่า Harley – Davidson of Bangkok Rama IX Showroom โชว์รูมแห่งนี้มีความเป็น Community ที่ครบครัน ทั้งในส่วนของโชว์รูม ศูนย์ซ่อม ซึ่งเน้นความทันสมัย ครบวงจร เพื่อให้เป็นศูนย์บริการฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน อย่างเป็นทางการที่ใหญ่ที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ จะประกอบไปด้วยโชว์รูมแสดงรถจักรยานยนต์ สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น และของตกแต่งรถ ที่กว้างขวางและล้ำสมัยกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการที่สามารถรองรับรถที่จะเข้ามาใช้บริการได้ถึง เดือนละกว่า 300คัน บริการงานซ่อมโดยช่างผู้ชำนาญงานที่ผ่านการอบรมจากฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน สหรัฐอเมริกา รวมถึงมี Exclusive Customer Loungeไว้บริการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเป็นพิเศษอีกด้วย
“จากข้อมูลการจดทะเบียนรถใหม่ของกรมขนส่งทางบก ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม ปี 2556 ที่ผ่านมาตลาดรถฮาร์เลย์มีอัตราการขยายตัวประมาณ 15% เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือมียอดจำหน่ายทั้งปี 390 คัน และคาดว่าปี 2557 นี้หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนดำเนินงาน ยอดขายน่าเติบโตขึ้นไปอีกประมาณ 15-20% เป็นอย่างน้อย หรือมียอดจำหน่ายถึง 450 คันได้แน่นอน ซึ่งฮารเล่ย์มั่นใจว่า ยอดขายจะเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ในปีต่อๆไป” และเพื่อรองรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เค็น เสวนสันกล่าวต่อว่า ในปี 2557 บริษัทมีแผนที่จะเริ่มขยายสาขาในส่วนภูมิภาค เพื่อรองรับความต้องการของตลาดรถบิ๊กไบค์ ฮาร์เลย์ที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายศูนย์กลางในการขายและบริการตามภาคต่างๆ โดยในเบื้องต้น จะพิจารณาความเป็นไปได้จังหวัดเมืองใหญ่ๆ ในแต่ละภาค เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคตะวันออกส่วน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมแผนธุรกิจ โดยในปี 2557 บริษัทตั้งเป้าจะเปิดสาขาให้ได้ 1 สาขา ภายใต้คอนเซ็ปต์ของการเป็นโชว์รูม พร้อมศูนย์บริการตามมาตรฐานของฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน และบริษัทคาดว่าภายในปี 2561 จะสามารถเปิดได้ทั้งหมด 5 สาขาเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการทั่วทุกภูมิภาค
สำหรับในปี 2557 ฮาร์เลย์จะเปิดตัวรถโมเดลใหม่ ภายใต้ชื่อโปรเจ็ค “Rushmore” ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ 110 ปีของฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน โดยโปรเจ็คนี้จะเป็นผลของการพัฒนาปรับปรุงรถให้มี Styling design ที่ใหม่ขึ้นและปรับปรุงให้ผู้ขับ ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้น โดยเน้นในเรื่องของ Control, Infotainment ,Feel และStyle โดยจะพบกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ใน 8 โมเดล ซึ่งได้แก่ Road King, Street Glide, Street Glide Special, Electra Glide Ultra Classic, Ultra Limited, Tri Glide Ultra, CVO Ultra Limited และ CVO Road King

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทุ่มงบประมาณกับกิจกรรมทางการตลาดเพื่อมุ่งเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้า ว่าบริษัท คือผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตในการจัดจำหน่าย รถฮาร์เล่ย์ (Authorized dealer) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่องผ่านหลากหลายกิจกรรม โดยเน้นถึงความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ ถ่ายทอดประสบการณ์มอเตอร์ไซค์หรูระดับพรีเมี่ยม ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้ารายได้ระดับกลาง-สูง ผ่านการทำ Below the Line จัดกิจกรรมทางการตลาด (Event Marketing) ที่สำคัญๆ เป็นหลัก ได้แก่ การเข้าร่วม Motor bike festival, Bangkok International Motor show และในไตรมาสสุดท้ายจะมีการเปิดตัว 2014 model launch event และเข้าร่วมกิจกรรมออกบูธ Big Bike ที่สยามพารากอน และโอเชี่ยนมาริน่า ยอร์ช คลับ
“สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจต่อไปบริษัทเน้นไปที่การตลาดหลัก
2 ช่องทาง คือการจัด Event marketing เพื่อเพิ่มยอดขาย และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโชว์รูมแห่งใหม่ที่พระรามเก้า ซึ่งในปี 2557 นี้ บริษัทตั้งงบประมาณการตลาดเอาไว้ที่ 35 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายในการเน้นขยายเน็ตเวิร์คของการขายและการเซอร์วิสหรือบริการหลังการขาย ให้มีความแข็งแกร่งไปสู่ระดับภูมิภาค เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในต่างจังหวัดต่อไป นอกจากนี้ ยังจะเน้นการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งในโชว์รูม รวมถึงการร่วมมือกับสมาคม HOG (Harley Owners Group)ในประเทศต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ระดับอินเตอร์ให้กับลูกค้าที่สนใจอีกด้วย” เค็น เสวนสัน กล่าว