การเข้าเกียร์1 ต้องเหนียบคลับแล้วดึงก้านเกียร์เข้าหาตัวพอรถเคลื่อนการใส่เกียร์สูงขึ้นหรือชิปอัพไปไม่ต้องเหนียบคลัชน์ดันก้านยัดเข้าไปเลย

มิชลินไพลอตสปอร์ตเอ็กซ์พีเรียนส์ (Michelin Pilot Sport Experience) หรือเอ็มพีเอสอี (MPSE) เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นที่เซปังอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตมาเลเซียกิจกรรมนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 โดยมีแขกของมิชลินร่วมกิจกรรมหัวใจสำคัญของกิจกรรมนี้

คือการได้ขับขี่รถแข่งจริงในสนามแข่งขันฟอร์มูล่าวันครั้งหนึ่งในชีวิตหลายคนอยากสัมผัสบ้างมิชลินไพลอตสปอร์ตเอ็กซ์พีเรียนส์ 2014 ปีนี้มีรถให้ได้ลองซิ่งกันหลายแบบหลายรุ่นเริ่มจากฟอร์มูล่า 4, เรโนลต์ Clio Cup, โตโยต้า 86 ทัวร์ริ่งคาร์เรโนลต์ C2 แรลลี่คาร์และมีรถให้นั่งฮอทแลป 2 รุ่นคือลัมโบกินี่ Super Trofeo และรถระดับตำนานอย่างฟอร์มูล่าเลอมังค์

ก่อนอื่นๆต้องบอกว่ามิชลินนั้นมักจะทำกิจกรรมแบบที่มีไฮไลท์ต่างๆกันไม่แค่เอ็มพีเอสอีเท่านั้นเท่าที่ผมเคยผ่านมาอย่างน้อยก็ 4 ครั้งที่ขับรถแบบที่ต้องอาศัยความกล้าฝีมือเช่นการทดสอบยางที่ออสเตรเลียกับยางในเครือของมิชลินเช่นบีเอฟกู๊ดริชที่มีทั้งสนามแข่งพื้นลื่นการขับยิมคานาโมโตคานาส่วนอีกงานที่ทะเลทรายทาคามาคันที่ซินเจียงเป็นการเรียนขับรถในทะเลทรายและก็กิจกรรมขับบักกี้หรือกิจกรรมฝึกขับแรลลี่ที่เมืองไทยก่อนจะไปงานเอ็มพีเอสอีล่าสุดที่มาเลเซีย

ทีมงานมิชลินขอข้อมูบเรื่องขนาดตัวขนาดรองเท้าหมวกล่วงหน้าเพราะว่ามิชลินต้องเตรียมชุดแข่ง FIA ไว้ให้ประกอบไปด้ยหมวกนิรภัยที่เห็นเป็นยี่ห้อ Shark ถุงมือและรองเท้าและชุดแข่งเป็นของSpaco

หลังจากเดินทางจากสุวรรณภูมิไปลงที่สนามบินมาเลเซียเข้าที่พักที่โรงแรมแอร์พอร์ทซึ่งเราพักที่นี่ 2 คืนระยะห่างจากโรงแรมไปสนามเซปังฯแค่5 นาทีเทียบสนามCIC ของใหม่บ้านเราตอนนี้เครื่องบินยังไม่สะดวกนั่งรถไป 5-6 ชั่วโมงไปทีคิดหนักเลย

เราเดินทางไปถึงสนามบินก็บ่ายๆซึ่งบรรยากาศของมาเลฯเงียบเป็นปกติสนามบินแห่งนี้คนน้อยแม้ร้านรวงจะขยายคึกคักแต่ก็ถือว่ายังเหงากว่าสุวรรณภูมิบ้านเราเยอะที่มาเลฯสายการบินจะคึกคักก็ช่วงการแข่งฟอร์มูล่าวันเท่านั้นยิ่งเครื่องบินหายไป1 ตกอีก 1 ลำด้วยแล้วเงียบใหญ่เลย

ที่โรงแรมเราได้รับการต้อนรับจากทีมเจ้าหน้าที่มีการนัดหมายและลงทะเบียนเพื่อกิจกรรมวันรุ่งขึ้นซึ่งเราจะต้องออกไปสนามโดยรถบัส 2 คันรถเพราะมีการเชิญสื่อหลายประเทศมาร่วมกัน

เช้าวันรุ่งขึ้นที่สนามเซปังฯทุกคนตื่นแต่เช้าถึงแล้วลงทะเบียนรับกุญแจไปเปิดล็อคเกอร์ซึ่งมิชลินเขียนชื่อแปะไว้เลยเอาข้าวเอาของไปเก็บในล็อคเกอร์นำชุดแข่งใส่กลับออกมาผมเคยไปร่วมกิจกรรมแบบนี้เลยรู้เยอะเตรียมกางเกงขาสั้นไว้รอบ้างใส่ขายาวแล้วใส่ชุดแข่งทับมันร้อนมาก

หลังจากแต่งตัวเสร็จมีการแนะนำทีมงานต่างๆโดยสรุปเรื่องยากที่มาเกี่ยวข้องก็คือทุกคนจะต้องผ่านการวัดความดันตามมาตรฐานมิชลินหากใครไม่ผ่านก็อดร่วมกิจกรรมมิชลินเอาหมอมาเลยมีเครื่องวัดความดัน 2 เครื่องใครพร้อมก็ไปวัดกรุ๊ปไทยมีนักขับ5 คนเบื้องต้นวัดครั้งแรกผ่านกันแค่ 1 คนเท่านั้นที่เหลือไม่ผ่านเดือนร้อนต้องมานั่งปรับอารมณ์แล้วการที่นอนดึกตื่นเช้าไปกันใหญ่เลย(เวลาของมาเลเซียเร็วกว่าเวลาไทย 1 ชั่วโมง)แต่จนแล้วจนรอดก็ดันกันจนผ่านมีข้อสังเกตคือเครื่องวัดของเขาค่อนข้างไม่นิ่งเพราะว่าแต่ละคนทำไมความดันขึ้นสูงขนาดนั้นก็เป็นเรื่องที่ลุ้นตั้งแต่เริ่มต้น

ลองของจริงฟอร์มูล่า 4

กลุ่มไทยแลนด์นั้นได้รับการเลือกให้เริ่มต้นกับสถานีแรงและเร็วนั่นคือการขับฟอร์มูล่า 4 ที่นอร์ธแทรคหรือทางวิ่งฝั่งเหนือรถแข่งล้อเปิดที่มีลักษณะเหมือนโกคาร์ทยางที่ใช้เป็นยางแข่งเต็มรูปแบบหรือยางสลิกที่ไม่มีดอกแต่เกาะถนนยังกับตุ๊กแกฟอร์มูล่า 4 เป็นรถที่นั่งเดี่ยวน้ำหนักรวมของรถเพียงแค่ 470 กิโลกรัมแต่มีแรงม้าถึง 185แรงม้าเป็นตัวเดียวกับที่ใช้แข่งในยุโรปการขับรถชนิดนี้ต้องรู้เทคนิคการขับขี่ที่เรียกว่าเรซซิ่งเป็นอย่างดีจึงจะทำให้เจ้าล้อเปิดระเบิดฟอร์มได้เต็มที่ต้องบอกว่ามันไม่ใช่รถบ้านพวกมาลัยหวานแหววถ้าเราไม่รู้อะไรเลยก็ขับยาก

ขับฟอร์มูล่า 4

การเริ่มต้นควบคุมรถคงจะต้องเข้าไปอยู่ในค็อคพิตของรถก่อนเพื่อรู้จักซึ่งที่นั่งจะแน่นมากพอดีตัวแป้นเบรก คลัชน์และคันเร่งมีพื้นที่เหลือน้อยให้ขยับหลังพวงมาลัยมีแป้นปีกผีเสื้อซ้ายขวาเป็นเกียร์วิธีการเข้าเกียร์เมื่อออกรถต้องดึงก้านผีเสื้อพร้อมกันซ้ายขวาจากนั้นก็ดึงฝั่งขวาต่อเนื่องกันอีก1 ทีเพื่อเข้าเกียร์หนึ่งขณะเข้าเกียร์ต้องเหนียบคลันชน์ไว้ด้วยเพราะว่ามันไม่ใช่เกียร์อัตโนมัติส่วนการเข้าเกียร์ว่างก็ดึงแป้นขึ้นมาคู่ลักษณะการใช้งานแบบนี้คลายกันกับระบบอีเกียร์ของลัมโบกินี่การขับฟอร์มูล่า 4 จะมีรถปอร์ชเช่น GT3 ขับโดยนักแข่งมืออาชีพนำไลน์ให้เราวิ่งตามไลน์ถ้าไม่พลาดจริงๆไม่มีหมุนแน่นอน

ผมขับฟอร์มูล่า 4 ไล่ตามGT3 ไปห่างๆถ้าใกล้มากเขาก็จะเพิ่มความเร็วให้ผมไม่ค่อยห่วงฟอร์มูล่า 4 เพราะว่าคุ้นเคยกับสนามเซปังเทคนิคต่างๆก็เอามาจากโกคาร์ทที่เคยเล่นนอกจากนี้ผมยังเคยขับฟอร์มูล่า 3 ของบีเอ็มดับเบิลยูที่เซปังฯมาแล้วมันจึงเป็นเรื่องที่พอจะเข้าถึงได้ด้วยความสนุกสนานสิ่งที่ได้จากฟอร์มูล่า4 คือมันสนุกเพราะว่ารถตอบสนองแบบดิบๆแน่นอนอย่างที่บอกหากไมเคยขับรถมันจะไม่ไหล่ลื่นคนที่ไม่เคยขับรถถึงเรดไลน์ก็จะรู้สึกว่ามันยากการที่ต้องมีทักษะเข้าใจว่ารถแข่งต้องการเรดไลน์คืนรอบไปสุดเกียร์แล้วค่อยชิปอัพฟอร์มูล่า4 เป็นเครื่องจักรที่ขับสนุกมากทีเดียว

คลีโอคลับเพื่อนเก่าที่คุ้นเคย

หลังจากจบรอบฟอร์มูล่า 4 แล้วเราก็เปลี่ยนสถานีมาขับรถที่เซาท์แทรคเพื่อนเก่าที่รู้จักคุ้นเคยจอดรออยู่2 คันคือคลีโอคลับ(Renault Clio Cup) รถเรซซิ่งในรายการคลีโอคลับในยุโรปและโตโญต้า 86 สำหรับคลีโอน้ำหนักรถ1000กิโลกรัมซ่อนม้าไว้ 220ตัวอัตราเร่ง0-100ใน4วินาทีตัวนี้แต่งเต็มระบบเกียร์ซีเควนเชียลก่อนขับสำหรับคนที่ไม่เคยใช้เกียร์วนแบบนี้ก็ต้องสาทิตกันก่อนโดยเอาแม่แรงมายกล้อหน้าให้สูงขึ้นแล้วก็หัดเข้าเกียร์เริ่มจากการทดสองติดเครื่องยนต์เผื่อไว้หากไปหมุนแล้วเครื่องดับวิธีการคือเปิดสวิสต์ไฟฟ้าแล้วก็กดปุ่มสตาร์ทเสียงมอเตอร์ลากยาวหน่อยก่อนเครื่องติดสงสัยใช้งานมาเยอะการเข้าเกียร์1 ต้องเหนียบคลับแล้วดึงก้านเกียร์เข้าหาตัวพอรถเคลื่อนการใส่เกียร์สูงขึ้นหรือชิปอัพไปไม่ต้องเหนียบคลัชน์ดันก้านยัดเข้าไปเลยส่วนเวลาจะลดเกียร์หรือเรียกว่าชิปดาวน์ต้องเหยียบคลัชน์ก่อนรถมี6 เกียร์เดินหน้าสุดทางตรงก็เกียร์6 พอดี

คลีโอเคยขับมาหลายครั้งจึงคุ้นเคยเล่นได้ด้วยการลากสุดทุกเกียร์เท่าที่จะไปได้เทียบกับฟอร์มูล่า 4 แล้วรู้สึกสัมผัสกับความมันส์มากกว่าอาจจะเป็นเพราะว่ารถเล็กจัดจ้านตอบสนองเร็วจึงขับสนุกคลีโอเป็นรถที่แรงและตูดไวเพราะฐานล้อสั้นดีที่ได้ยางสลิกเช่นเดียวกับฟอร์มูล่า 4 ทำให้การควบคุมรถไม่ยาก

86 ทัวร์ริ่งยังเร็วไม่พอ

สุดยอดรถที่ได้ขับในเซาท์แทรคอีกคันคือโตโยต้า 86 เป็นกรุ๊ป N คือรถโชว์รูมใส่อุปกรณ์เรซซิ่งตามข้อกำหนดทางด้านความปลอดภัย 86 เกียร์ธรรมดาพวงมาลัยซ้ายขับในเส้นทางเดียวกับครีโอคลับซึ่งเมื่อเทียบกับรถแข่งอย่างคลีโอแล้วดูเหมือน 86จะสุภาพและเรียบร้อยมากเหยียบสุดแล้วแต่แรงไม่พอให้ความรู้สึกอยากได้แรงกว่านี้อีก 86 ขับง่ายในโค้งกดมาเท่าไรก็หักใส่โค้งไปเท่านั้นติดลิมิเต็ดไว้นิ่งเลยพอรถแหกหรือออกอาการลื่นมันจะช่วยดึงรถให้อยู่ในการควบคุมซึ่งปลอดภัยดีแต่ความแรงความสนุกมันก็หายไปบางส่วน

ซีทูไอ้หนูจอมเกเร

ละจากทางเรียบมาถึงทางฝุ่นเจ้าหนูจอมเกเรของเราจอดรอให้ไปลุยลูกรังมันคือซีตรอง ซีทรู (C2) แรลลี่คาร์รถคันนี้ก็เป็นรถฝึกหัดของคนที่จะหัดแข่งทางฝุ่นซี2 เป็นรถขนาดเล็กแบบ5ประตูจัดแต่งชุดแรลล่าพร้อมยางRally ตัวรถมีน้ำหนัก650 กิโลกรัมแต่พกม้าไว้ 150 ตัวเป็นรถพวงมาลัยเกียร์ธรรมดาการขับรถแรลลี่เหมือนการคบคุมจักรยานไม่ให้มันล้มมันจะลื่นไถลไปเรื่อยเรามีหน้าที่ประคองให้มันไปตรงเป้าหมายแรลลี่เป็นเรื่องของการรักษาสมดุลย์และเทคนิคการขับต่างไปจากเรซซิ่งด้วยความลื่นเราอาจต้องเลี้ยวและเบรกล่วงหน้ามากกว่าปกติและอาจจะต้องใช้เทคนิคอื่นๆช่วยมากการที่ไม่ได้จับแรลลี่มานานทำให้รู้จักเป็นสเตชั่นที่ขับไม่สนุกไม่เร็วการไม่รู้จักรถไม่รู้จักทางเป็นเรื่องยากมากกว่าที่คิด

ลองนั่งเลอมังค์ 2 ที่นั่ง

ความตื่นเต้นที่สุดของกิจกรรมนี้คือการได้นั่งรถไปกับนักแข่งแต่ต้องจับฉลากเลือกระหว่างรถลัมโบกินี่ ( Lamborghini Super Trofeo )กับรถแข่งเลอมังค์ (Formula Le Mans) ผลการจับใบน้ำเงินใบแดงผมได้ใบแดงหมายถึงการได้นั่งHot Lap กับรถเลอมังค์เป็นที่อิจฉาของหลายคนเลอมังค์เป็นรถโพโตไทร์สองที่นั่งก่อนเป็นคนนั่งก็ต้องมีการเทรนนิ่งผู้โดยสารนัดหมายกันว่าเวลาไม่ไหวแล้วจะส่งสัญญาณอย่างไรให้คนขับรู้รวมถึงการวางแขนของผู้โดยสารต้องเอามือจับหูจับข้างๆมือต้องไหว้กันห้องโดยสารเหมือนรถฟอร์มูล่าเท้าเหยียดตรงๆลอยๆออกไปมีเข็มขัดนิรภัยแบบเต็ม 4 จุดตรึงแน่นเราไว้กันเบาะเลอมังค์เบาะนั่งต่ำมากแทบจะมองด้านหน้าไม่เห็นนี่ก็เป็นอีกหนึ่งของความอึดอัด

เลอร์มังค์เร็วและแรงที่สุดในรถที่ทั้งได้ลองนั่งและลองขับตลอดทั้งวันความเร็วระดับรถเลอมังค์สุดยอดด้วยแรงม้า 430 ตัวน้ำหนักรถแค่ 900กิโลกรัมจังหวะเบรกก่อนเข้าโค้งระยะสั้นมากและก็กระชากตัวแทบจะลอยออกนอกรถจากเกียร์สูงสุดแล้วเบรกในระยะเพียงไม่กี่เมตรก่อนเข้าโค้ง

ผมแอบดูเทคนิคการขับในสนามของนักขับอย่างหนึ่งที่เห็นคือเวลาวิ่งในแทรคเดียวกันรถจะใช้เทคนิคเดียวกันหรือใกล้เคียงกันมากเช่นจากออกสต๊าทรอบแรกสนามเซปังจะมีโค้งขวาหักศอกรับอยู่โค้งเป็นรูปตัวเอสสุดทางตรงนี้เมื่อเข้าสู่จุดเบรกไม่ว่ารถจะอยู่ที่เกียร์ไหนก็แล้วแต่เขาต้องลงเกียร์ 2 ให้ได้ก่อนเลี้ยวเสมอ

การเร่งออกจากโค้งที่เกียร์สองจากนั้นก็ไล่ความเร็วไปตามโค้งไปพอโค้งหักศอกขวาขึ้นเขารถจะต้องเบรกลึกลงมาใช้เกียร์2 อีกครั้งหรือลักษณะของการยกคันเร่งก่อนโค้งไฮสปีดแล้วก็กดไปมิดคันเร่งแบบนี้ต้องอาศัยจำเอาความท้าทายของนักขับก็มีตรงนี้ล่ะ

และท่ามกลางอาการหัวสั่นหัวคอนและอากาศร้อนจนคอแห้งเอ็มพีเอสอี2014 เป็นกิจกรรมที่น่าประทับใจจริงๆ

มิชลินยอดยางหัวใจเรซ

กิจกรรมมิชลินไพลอตสปอร์ตเอ็กซ์พีเรียนส์จัดขึ้นในเอเชียที่สนามเซปังอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิตตั้งแต่ปี 2006 เพื่อเป็นพื้นที่นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและบอกเล่าถึงประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียมจากมิชลินมิชลินมีความทุ่มเทในกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาอย่างยาวนานและสำหรับนักแข่งทุกคนยางเป็นสิ่งจำเป็นที่นักแข่งจะต้องพึ่งพาเพื่อนำไปสู่ชัยชนะและเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้แข่งขันกว่าศตวรรษที่มิชลินได้ให้คำมั่นที่จะนำเสนอยางที่ให้สมรรถนะที่เป็นเลิศให้กับนักแข่งเหล่านี้ยางที่มิชลินได้พัฒนาขึ้นมาเป็นการนำเสนอยางที่มีสมรรถนะรอบด้านที่เป็นผลลัพธ์ของแนวคิดที่มิชลินเรียกว่า MICHELIN Total Performance ที่เป็นการนำสมรรถนะที่เป็นเลิศต่างที่เคยถูกมองว่าสวนทางกันมารวมเข้าไว้ด้วยกันได้สำเร็จโดยการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจหลักในกลยุทธ์ด้านการวิจัยและพัฒนาของมิชลินสมรรถนะชั้นเลิศเหล่านี้เองที่นำไปสู่ความสำเร็จและการคว้าแชมป์ในรายการการแข่งขันระดับโลกมากมายอาทิเลอมังส์ 24 ชั่วโมง (Le Mans 24 hours), เวิลด์แรลลีแชมเปี้ยนชิพ (World Rally Championship-WRC) และดาร์การ์แรลลี่ (Darkar Rally) นอกจากนี้มิชลินยังให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อการค้นคว้าวิจัยอย่างต่อเนื่องและไม่เพียงแต่การค้นคว้าภายในห้องปฏิบัติการเท่านั้นแต่สำหรับมิชลินแล้วสนามแข่งขันเป็นกุญแจสำคัญสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อใช้งานจริงบนถนนการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตจึงเป็นเสมือนห้องปฏิบัติการสำหรับการเรียนรู้ทดสอบและพิสูจน์เทคโนโลยีต่างๆของมิชลิน

รู้จักมิชลินไพลอตสปอร์ตคัพ 2

มิชลินไพลอตสปอร์ตคัพ 2 (MICHELIN Pilot Sport Cup 2) คือยางระดับแข่งขันเจนเนอเรชั่นล่าสุดที่สามารถใช้งานได้บนถนนทั่วไปนอกสนามแข่งได้รับการออกแบบมาสำหรับยนตรกรรมสมรรถนะสูง (ultra-high performance) ซึ่งสมรรถนะอันโดดเด่นของยางรุ่นนี้ได้รับการยอมรับให้เป็นยางมาตรฐานสำหรับติดตั้งรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่อย่าง Ferrari 458 Speciale, Mercedes SLS AMG และ Porsche 918 Spyder สิ่งที่ยืนยันที่แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของไพลอตสปอร์ตคัพ 2 คือการสร้างสถิติเวลาต่อรอบ (lap time) ต่ำสุดที่สนาม Nurburgring ในปี 2013 ด้วยรถ Porsche 918 Spyder และ Seat Leon Cupra 280 เมื่อเร็วๆ

โดยรถทั้ง 2 รุ่นนี้ได้ติดตั้งยางมิชลินเป็นยางที่ใช้ในการแข่งขันเมื่อเปรียบเทียบกับยางรุ่นก่อนหน้านี้อย่างมิชลินไพลอตสปอร์ตคัพพลัสยางมิชลินไพลอตสปอร์ตคัพ 2 มีอายุการใช้งานในสนามแข่งมากขึ้นถึง 50% พร้อมให้เวลาต่อรอบน้อยกว่า* ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากเทคโนโลยีที่พัฒนาจากการแข่งขันในกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตต่างๆเช่นเลอมังส์ (Le Mans) 24 ชั่วโมงทั้งนี้การพัฒนาสมรรถนะของยางสัมฤทธิ์ผลได้โดยไม่สูญเสียสมรรถนะด้านใดด้านหนึ่งไปและนับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของกลยุทธ์ Michelin Total Performance ที่มีอยู่ในยางทุกรุ่นของมิชลิน

มิชลินไพลอตสปอร์ตคัพ 2 ผ่านการผลิตจากเครื่องจักรแบบเดียวกับยางสำหรับการแข่งขันใช้เทคโนโลยี : ไบคอมปาวน์ (Bi-Compound) หน้ายางมีสูตรเนื้อยางด้านนอกและด้านในที่แตกต่างกันเนื้อยางด้านนอกใช้สูตรยางที่มีมวลโมเลกุลสูงให้เนื้อยางที่มีแรงยึดเหนี่ยวสูงเพื่อการยึดเกาะบนถนนแห้งและการเข้าโค้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโค้งแคบในขณะที่เนื้อยางด้านในมีความแข็งกว่าเพื่อการตอบสนองของพวงมาลัยที่แม่นยำ

: Track Variable Contact Patch 3.0 เป็นนวัตกรรมที่พัฒนามาจาก Variable Contact Patch 2.0 ที่ใช้ในมิชลินไพลอตซูเปอร์สปอร์ตซึ่งสามารถปรับแรงกดบนหน้าสัมผัสให้เหมาะสมทำให้เนื้อยางสามารถสัมผัสถนนได้เต็มที่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการขับขี่เป็นเส้นตรงหรือการเข้าโค้งทั้งกว้างและแคบ

: เข็มขัดรัดหน้ายางที่ผลิตจากอารามิด (Aramid) เป็นเส้นใยไฟเบอร์ความแข็งแรงสูงที่มีน้ำหนักเบาแต่ให้การปกป้องที่เป็นเลิศ (ความแข็งแรงมากกว่าเหล็กถึง 5 เท่าในน้ำหนักที่เท่ากัน) เข็มขัดรัดหน้ายางดังกล่าวมีลักษณะเป็นแถบซึ่งรัดบริเวณหน้ายางอยู่ใต้ดอกยางด้วยความตึงที่แตกต่างกันตั้งแต่ไหล่ยางไปถึงกึ่งกลางของหน้ายางทำหน้าที่เปรียบเสมือนกับเข็มขัดที่รัดและรักษาโครงสร้างของยางให้แน่นและมั่นคงช่วยให้ยางสามารถรักษาหน้าสัมผัสที่ดีเยียมไว้ตลอดเวลาแม้ที่ความเร็วสูง