เจาะรถใหม่ในงาน MOTOR EXPO 2017 สุดอลังการ 35 ยี่ห้อเต็มเวที thaiautopress.com เรียบเรียงไว้ให้เป็นคู่มือดูงาน
ASTON MARTIN

Aston Martinโดยบริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัดผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการส่งสุดยอดรถยนต์ ระดับซูเปอร์ คาร์ DB11 V8 รถรุ่นใหม่ล่าสุดรถที่ทรงพลังและมีสมรรถนะสูง
AUDI
ออดี้ค่ายรถมือใหม่แต่ไม่ใช่น้องใหม่ของวงการ มือใหม่แต่ทุนจากกระเป๋าส่วนตัวของผู้บริหารกสิกรไทยเท่านั้น ที่แตกไลน์มาขายรถยนต์พรีเมี่ยม จากเยอรมันเพื่อต่อกรกับเมอร์เซเดส-เบนซ์และบีเอ็มดับเบิลยู ออดี้ทะยอยส่งรถเติมไลน์มาเรื่อยๆ ตอนนี้ไฮไลท์ก็คงจะเป็น ซูเปอร์ คาร์ค่ายหลายห่วง ออดี้R8 ใหม่ รายละเอียดต่างๆต้องรอติดตามชม
BENTLEY

อีกหนึ่งซูเปอร์ คาร์ ที่อยู่ในเครือเดียวกับ เอเอส ที่ทำยอดขายจากปอร์เช่ เป็นหลักสำหรับแบรนด์ เบนท์ลีย์ จำหน่ายโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัดเตรียมส่งรถซูเปอร์ เอสยูวีBentley เบนท์ลีย์ เบนเทก้า เครื่อง 12 สูบW12 มากเป็นไฮไลท์ นอกจากนี้ รถบางรุ่นบนเวทีที่โชว์ตัวบนเวทีกัน่มาบ้างแล้วยังมีการเปิดราคาบนเวทีด้วย
BMW
ค่ายกังหันสีฟ้า ยิงสลุดด้วยรถใหม่เต็มพิกัด เริ่มจากสองตัวหลักคือ ซีรี่ส์3 320D GT และตามมาด้วย ซี่รี่ส์ 6 GT และรถเอสยูวี X3 sport และสุดยอดไฮไลท์คือ ซีรี่ส์7 เครื่อง V12 ครั้งแรกที่เอาเครื่องวี 12 มาขายน่าจะไปหาเสียงวี12 มาฟังเสียหน่อยเพราะได้ข่าวว่าเสียงเพราะเหลือเกิน
CHEVROLET
เชฟโรเลต ก็แต่งตัวมาสู้แม้จะไม่มีรถแบบออลนิว ออกมานานแล้วครั้งนี้ถือโอกาส ออกตัว เซนเทนเนียล อิดิชั่น
100 ปีเชฟโรเลตลิมิเต็ด แค่300 คันแถมทำเก๋สามารถสั่งจองทางอินเตอร์เน็ต หรือออนไลน์ Booking ได้เป็นครั้งแรกของวงการ การจองผ่านทางออนไลน์ ลูกค้าเลือกหมายเลขประจำตัวรถ ที่ต้องการแถมด้วยความหมายมงคล จาก อาจารย์คฑา ชินบัญชร จำกัด 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์ โดยยึดจาก ชื่อ-นามสกุล ที่ถูกใช้ในการจอง หากชื่อดังกล่าวทำการจองและจ่ายเงินจองเรียบร้อยแล้ว ชื่อดังกล่าวจะไม่สามารถใช้ในการจองหมายเลขอื่นๆ ได้อีก
ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ ต้องชำระเงินจองจำนวน 5,000 บาท ที่ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลต สาขาท่านที่เลือก ภายใน 48 ชม. หลังจากได้รับข้อมูลยืนยันทาง SMS
เซนเทนเนียล อิดิชั่น คือเอากระบะ 4 ประตูตัวทอป มาใส่อุปกรณ์และทำการตอกเลข ไว้เป็นสัญลักษ์พร้อมโลโก้ รูปโบว์และสัญลักษณ์ 100 ปี
FORD
ฟอร์ดมีรถบนเวที 14 คัน แต่ยังไม่บอกว่า เรนเจอร์ MY18 มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างและก็ยังไม่ทราบว่า ฟอร์ดจะมีรถออลนิวออกมาไหมหลักจากเว้นว่างรถใหม่มานาน
FOTON
รถกระบะและรถบรรทุกจากจีน ค่ายนี้อาจจะยังไม่น่ามีอะไรตื่นเต้นเพราะว่า ยังต้องพัฒนาอีกหลายๆ ประการโดยเฉพาะการสื่อสารต่างๆ การตลาดเพราะเห็นทำแต่ฝั่งออนไลน์คนยังไม่รู้จักแบรนด์ยังไม่เชื่อมันก็ลำบากสินค้ารถยนต์ไม่เหมือนสินค้าอื่นๆอยู่ด้วย เท่าที่รับฟังมาก็จะมีรถบรรทุกใหม่เข้ามาทำตลาดแต่การเปลี่ยนแปลงในทูนแลนด์หรือกระบะ 1 ตัน เป็นอย่างไรต้องไปดูบนเวที
HONDA
ฮอนด้า บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าตลาดรถเก๋ดูออกซีดๆ ไปเพราะว่าไม่มีรถใหม่ลงตลาดเนื่องจากระดมส่ง มากกว่า 5 รุ่นในช่วงครึ่งปีแรก ณ บูธฮอนด้า ในงาน Thailand International Motor Expo 2017 ฮอนด้าจัดแสดงยนตรกรรม 12 รุ่น จำนวน 22 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ 5 รุ่น เป็นรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้แก่ ซีอาร์-วี ซิตี้ แจ๊ซ ซีวิค แฮทช์แบ็ก และโมบิลิโอ พร้อมกับข้อเสนอพิเศษอื่นๆ ไฮไลท์คือ“ฮอนด้า ซีวิค สีใหม่ สีแดงแรลลี่ ปลุกเร้าจิตวิญญาณความสปอร์ตของ ฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชั่นที่ 10 การเผยโฉมสีสันใหม่ สีแดงแรลลี่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทยเพื่อ ตอบรับเสียงเรียกร้องจากแฟนๆ ฮอนด้า ซีวิค ที่ชื่นชอบความสปอร์ต และความร้อนแรง
HYUNDAI
ฮุนไดเข้าตลาดรถครอบครัวขนาดใหญ่ ยังมีการเดินหน้าทำตลาดอย่างเหนียวแน่นและปีนี้ การปรับปรุงH1 และสตาร์เร็ค โดยบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายฮุนไดจากเกาหลี ได้จัดรถใหม่เข้าเต็มเวที เพื่อนำเสนอความล้ำสมัย เพื่อยกระดับภาพลักษณ์และผลิตภัณฑ์ด้วยรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้า
รถยนต์ที่ได้นำมาจัดแสดงในงานมีด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นคือ รถยนต์ต้นแบบฮุนได RN30 รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไอออนิก และรถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ฮุนได แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ และฮุนได เอช วัน
ฮุนได RN30:คอนเซ็ปคาร์

รถยนต์ต้นแบบ ฮุนได อาร์เอ็น 30 ได้รับการแนะนำครั้งแรก ในงานปารีส มอเตอร์โชว์ เดือนก. ย. 59 เป็นรถยนต์ที่ถูกสรรสร้างขึ้น เพื่อสื่อถึงDNA ของรถยนต์รหัส N ซึ่งเป็นรหัสที่บ่งบอกถึงความเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงของ ฮุนได รถยนต์ต้นแบบ ฮุนได อาร์เอ็น 30 พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์ฮุนไดรุ่น ไอ30 โดยความร่วมมือระหว่างทีมงานฮุนได มอเตอร์สปอร์ต (Hyundai Motor Sport – HMSG), ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีฮุนไดภาคพื้นยุโรป (Hyundai Motor Europe Technical Center – HMETC) และหน่วยพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงและการพัฒนาเทคโนโลยีฮุนได(Hyundai Motor’s Performance Development & High Performance Vehicle Division)
อาร์เอ็น 30 เน้นเรื่องความเร้าใจในการขับขี่ แบบสปอร์ตมีน้ำหนักตัวถังเบา ทนทานสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยวัสดุน้ำหนักเบาที่ใช้ ได้พัฒนาร่วมกับ บริษัทวิจัยและพัฒนาทางด้านเคมีชั้นนำของโลกจากประเทศเยอรมนีอย่าง BASF

อาร์เอ็น 30 วางเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร ใช้เทอร์โบขนาดใหญ่ เพื่อช่วยเพิ่มอัตราเร่งให้ทันใจ แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 380 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 451 นิวตัน–เมตร เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติคลัทช์คู่แบบเปียก นอกจากนี้ ยังมีระบบแปรผันวาล์วฝั่งไอเสีย ทำให้ฮุนได อาร์เอ็น 30 มีการตอบสนองด้านอัตราเร่งที่รวดเร็ว ทันใจ รวมถึงเสียงจากท่อไอเสียที่ดุดัน ให้ความรู้สึกสปอร์ตขณะขับขี่
ไอโอนิก:รถพลังงานไฟฟ้า
รถยนต์ฮุนได ไอออนิก ได้รับการแนะนำสู่ตลาดครั้งแรกในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2559 เป็นรถยนต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีจุดประสงค์หลัก คือการสร้างรถยนต์ที่มีมลพิษที่ต่ำที่สุด หรือปราศจากมลพิษ นับเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลก ที่มีจำหน่ายในทั้ง 3 รูปแบบระบบขับเคลื่อนใน 1 รุ่น ได้แก่ ไฮบริด, ปลั๊กอิน ไฮบริด และอีวีสำหรับรถยนต์ รุ่นที่นำมาจัดแสดง เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซนต์
ภายนอกได้รับการออกแบบโดยเน้นที่ปัจจัยหลัก 2 อย่าง คือ เทคโนโลยี และประสิทธิภาพ ทำให้มีบุคลิกของความเป็นรถยนต์แห่งอนาคต รูปทรงตัวรถเป็นแบบรถแฮ็ทช์แบ็ก ทรงสปอร์ต มาพร้อมเส้นสายที่พลิ้วไหว รวมถึงการออกแบบตัวถังส่วนต่างๆ ที่ช่วยทำให้อากาศสามารถไหลผ่านตัวรถได้อย่างสะดวกและลื่นไหลตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำเพียง 0.24
ภายในถูกออกแบบโดยเน้นถึงความเป็นรถแห่งอนาคต ด้วยแนวคิด ‘Purified High-Tech’ ที่เน้นถึงความเรียบง่าย ลื่นไหล แต่มีความปราณีต และใช้งานง่าย เน้นการใช้วัสดุที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมที่น้อยที่สุด วัสดุภายใน เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ผ้าหลังคาและพรมที่มีส่วนผสมจากต้นอ้อย ช่วยให้อากาศภายในห้องโดยสาร มีความบริสุทธิ์, สีพ่นตัวถัง มีส่วนผสมของน้ำมันถั่วเหลือง เพื่อให้มีประกายของเม็ดสีที่สวยงาม, แผงประตูที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล ผสมกับผงไม้และหินจากภูเขาไฟ แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแรงและคุณภาพที่ดี นอกจากนี้ บริเวณช่องแอร์, คอนโซลกลาง, พวงมาลัย และเบาะนั่ง ถูกตกแต่งด้วยสีส้มทองแดง ซึ่งเป็นสีที่เปรียบเสมือนกระแสไฟฟ้าที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในรถยนต์ ได้แรงบันดาลใจจากทองแดงที่อยู่ในคอนดักเตอร์ของระบบไฟฟ้า
ระบบเกียร์ ถูกออกแบบให้เป็นแบบระบบปุ่มกด หรือ shift by wire ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ซึ่งผู้ขับขี่ สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการเพียงปลายนิ้วสัมผัส นอกจากนี้ยังมีระบบเบรคมือไฟฟ้า และระบบ wireless charging ที่สามารถชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ เพียงวางโทรศัพท์บริเวณช่องชาร์จด้านซ้ายของปุ่มเลือกตำแหน่งเกียร์
สำหรับระบบขับเคลื่อนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ฮุนได ไอออนิก นั้นเป็นการขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิด ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ที่ให้พละกำลังสูงสุด 120 แรงม้า (88kW)แรงบิดสูงสุด 295 นิวตัน–เมตร ส่งผ่านกำลัง ด้วยระบบเกียร์แบบ single-speed ที่สามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ผ่านปุ่มกดบริเวณคอนโซลกลาง ความเร็วสูงสุดที่ 165 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับเก็บพลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนนั้น เป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียม–ไอออน โพลิเมอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพการชาร์จไฟที่ดี และมีหน่วยความจำรอบการชาร์จไฟที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่แบบนิกเกิล เมทัล ไฮดราย

สำหรับในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ฮุนได ไอออนิก ใช้เป็นแบตเตอรี่ขนาด 28 kWh ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดที่ 250กิโลเมตร ใช้เวลาในการชาร์จไฟแบบปกติอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 25 นาที (โดยประมาณ) และการชาร์จไฟแบบ quick charge อยู่ที่ 30 นาที ด้วยกำลังการชาร์จไฟขนาด 50 kWและชาร์จ 23 นาทีโดยประมาณ ด้วยกำลังการชาร์จไฟขนาด 100 kW โดยแบตเตอรี่นี้ ถูกติดตั้งอยู่ใต้ที่นั่งของผู้โดยสารตอนหลัง แต่ยังคงไว้ซึ่งพื้นที่ที่สามารถบรรจุสัมภาระได้สูงสุดถึง650 ลิตร
ในส่วนของระบบความปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มั่นใจและปลอดภัยในทุกการเดินทาง ด้วยระบบ Blind Spot Detection ทำหน้าที่ตรวจจับรถในจุดอับสายตาขณะขับขี่ โดยทำงานควบคู่กันกับระบบ Lane Change Assist ช่วยตรวจจับรถในเลนด้านข้างในขณะที่ผู้ขับขี่กำลังเปลี่ยนเลน และยังทำงานร่วมกับระบบ Rear Cross Traffic Alert ในขณะที่ผู้ขับขี่กำลังจะถอยรถออกจากที่จอดรถ ระบบจะตรวจจับความเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆจากด้านหลัง
นอกจากนี้ ยังมีระบบ Autonomous Emergency Braking System (AEB) ที่จะช่วยเบรกรถอัตโนมัติ ในกรณีที่ผู้ขับขี่ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองในขณะที่รถกำลังเข้าใกล้รถคันข้างหน้า หรือในกรณีที่คนเดินถนนเดินตัดผ่านหน้ารถในระยะกระชั้นชิด กล้องบริวเวณด้านบนกระจกบังลมหน้าและเรดาร์บริเวณกระจังหน้า จะทำหน้าที่ตรวจจับวัตถุและคนเดินถนน และจะสั่งการให้รถหยุดโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
แกรนด์สตาร์เร็กซ์ -ฮุนได เอช วัน ระบบช่วงล่างใหม่
ภายในงาน ฮุนได ยังได้นำรถยนต์อเนกประสงค์ที่ขายดีที่สุดในประเทศมาจัดแสดง ซึ่งในปีนี้มีความพิเศษมากขึ้นด้วย ชุดอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลให้กับผู้โดยสารทางด้านหลัง พร้อมด้วยชุดโช้คอัพและสปริงหลัง ทางเลือกเสริมที่จะเพิ่มความนุ่มนวลให้ทุกการเดินทางในรถยนต์อเนกประสงค์ทั้งสองรุ่น
โปรโมชั่นพิเศษในงานมีรายละเอียดดังนี้
ฮุนได เอช–วัน ทุกรุ่น :
ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
ฟรี คูปองบำรุงรักษารถยนต์ พร้อมค่าแรงและค่าอะไหล่ นาน 1 ปี (สำหรับลูกค้าที่จองระหว่างวันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 60)
ฮุนได แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ทุกรุ่น:
รับดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 0.99% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน หรือ รับเงื่อนไขพิเศษอื่นๆ
ISUZU
เวทีอีซูซุแน่นอนต้องยิ่งใหญ่สมกับเป็นเจ้าตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ปีนี้อีซูซึ มีกระสุนสดใหม่นั่นคือ ดีแมคซ์ ไมเนอร์เชนจ์ที่เปิดตัว สัญลักษณ์หน้าใหม่ไปเมื่อเร็วๆ นี้
JAGUAR และLAND ROVER

รถยนต์หรูหราจากอังกฤษ มีกิจกรรมค่อนข้างถี่ในประเทศไทยหลังจากเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายโดยจากัวร์ไฮไลท์ บนเวทีได้แก่ จากัวร์ อี-เพลส รถคอมแพคSUV แบบ5 ที่นั่งและในส่วนของแลนด์โรเวอร์ ได้ส่งรุ่น เวลา เอสยูวีหรูหรา เข้ามาให้ทดลองขับ


KIA
บริษัท บริษัท ยนตรกิจ เกียมอเตอร์ จำกัด ประกาศเปิดขายโซล EV อย่างเป็นทางการ โดยก่อนหน้านี้รถยนต์ไฟฟ้าตัวนี้ได้เคยมาแสดงและสำรวจตลาดมาแล้ว นอกจากนี้ยังเปิดตัว รถสปอร์ตสติงเกอร์ (Stinger)รถที่ แตกต่างจาก เกียที่มีมาก่อนหน้านี้ Stinger คือรถที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในประวัติศาสตร์การผลิตของเกียจากแนวคิดของ GT-car และจากการปรับแต่ง ในสนามแข่งแห่งตำนาน Nurburgring ทุกรายละเอียดของรถได้รับการออกแบบโดย Peter Schreyer และทำการทดสอบในสนามแข่งโดย อัลเบิร์ตเบียร์มานน์ หัวหน้าฝ่ายทดสอบและการพัฒนาสมรรถนะสูง ฐานล้อของ Stinger ยาวกว่า Audi A4, อินฟินิตี้ Q50, เลกซัส IS, BMW 4 Gran Coupe หรือแม้แต่ เลกซัส GS และ เมอร์เซเดส*-เบนซ์ CLS เกีย สติงเกอร์มีการผลิต 2 เครื่องยนต์ คือ เครื่องยนต์มาตรฐาน 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ Theta II ผลิตแรงม้าประมาณ 255 แรงม้าที่ประมาณ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 260 ปอนด์ – ฟุต ที่ 1,400 – 4000 รอบ / นาที
และเครื่องยนต์ V6 Lambda II ขนาด 3.3 ลิตร เทอร์โบ 365 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาทีและมีแรงบิดสูงสุด 376 ปอนด์/ฟุต ที่ 1,300 – 4,500 รอบต่อนาที สำหรับจำหน่ายในไทยเป็นเครื่องยนต์ 2.0ลิตร
LEXUS
LS -F หลังจากเปิดตัว sedan เรือธงแห่งนวัตกรรมในต้นปีพ. ศ. 2560 แล้วเลกซัสกำลังเปิดฉากลงนามในเครื่องหมายการค้ารุ่น F SPORT ฉบับใหม่นี้ Lexus LS F SPORT เปิดตัวและแสดงผลในงาน New York International Auto Show ปีพ. ศ. 2560 ช่วยเพิ่มความรู้สึกให้กับเข็มขัดในการขับขี่ได้ไกลยิ่งขึ้นด้วยการจัดการกับการปรับปรุงและการออกแบบที่มีประสิทธิภาพจากภายนอก 2018 LS จะให้ประสบการณ์การขับขี่แบบไดนามิกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรูปแบบ ตอนนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยรูปแบบ F SPORT ใหม่ ที่มีจำหน่ายในระบบขับเคลื่อนด้วยไฮบริดและไฮบริดซึ่งเป็นรุ่น F SPORT ของ LS จะทำให้รูปแบบมาตรฐานมีสมรรถนะในการขับขี่ผ่านการปรับแต่งและปรับแต่งแชสซีที่ใช้อย่างพิถีพิถันในขณะที่ยังเน้นความสะดวกสบายเป็นพิเศษ
MASERATI
Levante S รถเอสยูวี ใหม่
Maserati Levante ขึ้นอยู่กับวิวัฒนาการของแพลตฟอร์มรถเก๋งซึ่งออกแบบโดย Maserati แชสซีได้รับการพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อให้มีสมรรถนะในการขับขี่บนถนนที่ไม่เหมือนใครและความสามารถในการขับขี่แบบ off-road ด้วยความสะดวกสบายและการปฏิบัติจริงในแต่ละวัน พรีเมี่ยมอิตาเลียนเอสยูวีได้รับการออกแบบโดยรอบสามเสาหลัก ได้แก่ การออกแบบการเลือกสรรและการแสดง มันแสดงถึงการผสมผสานที่ดีที่สุดของทั้งสามองค์ประกอบในโลกรถ SUV
การออกแบบของ Maserati Levante มีความโดดเด่นและน่าสนใจโดยคำนึงถึงองค์ประกอบทางสุนทรียรสของสไตล์อิตาลี การออกแบบนี้นำแนวคิดใหม่สู่โลกของ SUV ผสมผสานระหว่างความกว้างขวางและเส้นcoupéในขณะที่ประสิทธิภาพของอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดในส่วนที่มีค่าสัมประสิทธิ์ Cx เท่ากับ 0.31
ความพิเศษของมันมาจากคุณสมบัติทางเทคนิคเช่น Air Suspension และ Q4 AWD ซึ่งมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานและการปรับแต่งระดับสูงซึ่งรวมถึงสองแพคเกจสุดหรู Sport and Luxury ผลที่ได้คือประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์มาเซราตี

Maserati Ghibli GranLusso
โดยเปิดตัวครั้งแรกที่เฉิงตู มอเตอร์สโชว์ในจีนนำเสนอชุดกันชนหน้าใหม่พร้อมด้วยโครเมี่ยมเฉพาะและตะแกรงด้านหน้าแบบใหม่ที่มีแถบโครเมี่ยมซึ่งกลายเป็นสไตล์ของMaseratiรุ่นใหม่ๆ นอกจากนี้ยัใช้ไฟ LED เต็มรูปแบบที่ปรับเปลี่ยนได้ด้วย Matrix High-Beamให้แสงสว่างสดใสและให้แสงสว่างได้ดียิ่งขึ้น
MAZDA
มาสด้า ที่มีCX-5 โฉมใหม่ลงทำตลาดและเป็นไฮไลท์ของเวทีด้วยรูปทรงที่สวยงาม ผสานกับเทคโนโลยี มาสด้าเป็นรถที่มีทีเด็ดตรงความสมบูรณ์แบบหาข้อติได้ยากจากการปรับปรุงคุณภาพ ทุกเจนเนอเรชั่น
MERCEDES-BENZ

เมอเซเดส-เบนซ์ส่งรถใหม่มามากกว่า 5 รุ่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ใช้เวทีและแยกแบรนด์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีออกมาจากแบรนด์แม่อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างชัดเจนเป็นครั้งแรกสำหรับเมืองไทย สำหรับรถใหม่บนเวที คือ AMG GT R และGT C รถซูเปอร์ คาร์ ขนาด 557 แรงม้าและตามมาด้วย E300 เปิดประทุน และในบูธก็มีรถจัดแสดงมาก มายแเช่น GLE AMG 45 43 นอกจากนี้ยังมีเอส คลาส ตัวใหม่ปี2018 และมายบัคใหม่

MG
NEW MG ZS รถสมาร์ทคาร์ที่มาพร้
MINI
ตัวเด็ดจาก มินิ ถือเป็นรถใหญ่สุดในตระกูล มินิ ด้วย เครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบ 231 แรงม้าและแรงบิด 350 นิวตันเมตร – ระบบขับเคลื่อนล้อ ALL4 ระบบเบรค Brembo และล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว – ด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ ภายใต้แนวคิด รถเพื่อการแข่ง John Cooper Works – ทำความเร็ว 0- 100 กม. / ชม. ในเวลา 6.5 วินาที ติดชุดอุปกรณ์อากาศพลศาสตร์ John Cooper Works ชุดใหญ่เช่น
ช่องอากาศขนาดใหญ่ที่ด้านหน้า – การตกแต่งภายในเฉพาะรุ่น เบาะ ที่นั่งสปอร์ต ของ John Cooper Works ไฟหน้า LED, โหมดการขับขี่ MINI และ Comfort Access – MINI John Cooper Works ใหม่คือผู้สืบทอดตำแหน่งรถสปอร์ต ชั้นนำของแบรนด์
MITSUBISHI
SUV คอนเซ็ป คาร์ และกระบะสปอร์ตรุ่นพิเศษ มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีทใหม่(New Mitsubishi Triton Athlete)สปอร์ตพันธุ์เข้มเร้าใจทุกมุมมองด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคันจากโรงงาน
NISSAN

รถเด่นบนเวที โชว์เคส นิสสัน ลีฟนอกจากนี้ยังมีโชว์เคสของ E-Power ส่วนนาวาร่า เพิ่มกล้องอลาว วิว ถุงลมนิรภัย 7 ลูก สีแดงใหม่โดย นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวของรถยนต์ไฟฟ้าล้ำสมัยรุ่นใหม่ครั้งแรกในเมืองไทย บูธของนิสสันปีนี้ นำเสนอผ่านคอนเซ็ป “นวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจ”(Innovation That Excites)ซึ่งถ่ายทอดแนวคิดการขับเคลื่อนอัจฉริยะ ‘นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้’(Nissan Intelligent Mobility)ภายในมีการ จัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ใหม่ รถยนต์ไฟฟ้าเจนเนเรชั่นที่สอง เทคโนโลยี อี-เพาเวอร์ (e-POWER), นิสสัน นาวาร่ารุ่นปี 2018
PORSCHE
ปอร์เช่ นำเสนอรถยนต์ปอร์เช่ 3 รุ่นใหม่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ คาเยนน์ เอส ใหม่ (The new Cayenne S), พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กซ์เซคคูทีฟ (Panamera 4 E-Hybrid Executive) และ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo)
คาเยนน์ เอส ใหม่ (The new Cayenne S) สุดยอดยนตกรรมสปอร์ต SUV เจเนอเรชั่นที่ 3 ยานยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ที่เปี่ยมล้นด้วยสมรรถนะและความสะดวกสบายสะกดทุกสายตาสัมผัส, พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กซ์เซคคูทีฟ (Panamera 4 E- Hybrid Executive) ยนตกรรมซาลูนสุดหรูขับเคลื่อนล้อหลัง ฐานล้อที่กว้างมากขึ้น 150 มิลลิเมตรจากรุ่นปกติ อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารและพื้นที่วางเท้า พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เหนือชั้นกว่ารุ่นปกติ และ พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Sport Turismo) ยานยนต์ระดับแนวหน้าสุดหรู ขีดสุดแห่งงานออกแบบเหนือระดับด้วยแนวคิด 4+1 ที่นั่ง
TOYOTA

โตโยต้า ปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ด้วยแผนการตลาดที่สอดคล้องกันกับ การจัดการโครงสร้างภาษีใหม่ขิงรัฐบาลในโครงการไฮบริด โดยต่อจากนี้ไปรถนั่งส่วนใหญ่จะเข้าสู่สเตทของการใช้ภาษีไฮบริดโดยเฉพาะจากเดิมไฮบริดติดตั้งในรถเก๋งขนาด D เช็กเมนท์ตัวเดียวก็จะขยายสู่ตลาด Cเซ็กเมนท์ และฺB เซ็กเมนท์ในอนาคตนอกจากนี้ ไฮบริดจะถูกนำไปใช้ในแพทฟอร์มต่างๆ เริ่มจากรุ่น CH-Rใหม่ เครื่องไฮบริด 2 ขนาดคือ 2.0 โตโยต้าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เปิดรับจองแต่จะมีรถพร้อมส่งมอบเดือนมีนาคม2561
ไฮไลท์หนึ่งบนเวทีคือไฮลักซ์ รีโว่ ไมเนอเชนจ์ จากที่รีโว่มีเสียงสะท้อนมาตลอด2ปีที่จำหน่าย ว่ารูปร่างภายนอกคล้ายตัวรถตัวเดิมและหน้าตาเป็นแบบเก๋งเกินไป โตโยต้าจึงปรับปรุงใหม่ ออกแนวหนักแน่นบึกบึน ซึ่งตัวแต่งเต็มในไลน์นี้ใหชื่อว่า ร็อคโค่ (ROCCO) เป็นรุ่นแต่งพิเศษส่วนรีโว่ ไมเนอร์เชนจ์มีการปรับลายละเอียดมากมาย ต้องไปติดตามดู

VOLVO
XC60รถเอสยูวี ที่สวยและไฮเทคที่สุดคันหนึ่งบนเวที จัดมาเต็มเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
รถกลุ่มที่ยังต้องติดตามต่อคือ RAYTTLE รถไฟฟ้าจากจีน โรลซลอยด์ ROLLS-ROYCE
SUBARU ที่มี XV เจนเนเรชั่นที่ 2 โฉมใหม่เป็นไฮไลท์ SUZUKI ซึ่งจับเอา CIAZ มาแต่งแบบสปอร์ต รถบรรทุก TATA จากอินเดียและ THAINA จากจีน นอกจากนี้ยังมีรถจากลุ่มของบีอาร์จี กรุ๊ฟเช่น BMW M PERFORMANCE,CARLSSON ,MOKE, M’Z SPEEDและรถบ้าน (รถลาก) SWIFT