Home รถยนต์ รถใหม่ไทยแลนด์ ฟอร์ด เรนเจอร์ XL XLT 2015

ฟอร์ด เรนเจอร์ XL XLT 2015

New Ford Ranger Low Series (1)ฟอร์ด ประเทศไทยส่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นเอ็กซ์แอลและเอ็กซ์แอลเอสใหม่บุกเซกเม้นต์ตลาดรถกระบะใช้งานสำหรับกลุ่มลูกค้าเจ้าของธุรกิจขนาดย่อมชูความแข็งแกร่งผสานกับเทคโนโลยีทันสมัยพร้อมความปลอดภัยครบครันโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดัน มอบสมรรถนะที่ทรงพลังและเปี่ยมประสิทธิภาพ เปิดจำหน่ายแล้วที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ
“ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นเอ็กซ์แอลและเอ็กซ์แอลเอสใหม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มลูกค้าเจ้าของธุรกิจโดดเด่นทั้งด้านความแข็งแกร่ง ความสมบุกสมบันที่มาพร้อมสมรรถนะอันทรงพลังด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยเรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าฟอร์ดเรนเจอร์รุ่นเอ็กซ์แอลและเอ็กซ์แอลเอสใหม่ จะมอบความคุ้มค่าเหนือกว่ารถอื่นๆในเซ็กเม้นต์เดียวกัน และ สามารถเป็นผู้ช่วยให้ทุกงานหนักประสบความสำเร็จอย่างเต็มภาคภูมิ ” ยุคนธรวิเศษโกสินกรรมการผู้จัดการฟอร์ดประเทศไทยกล่าว
ขุมพลังที่มาพร้อมความประหยัดและเปี่ยมประสิทธิภาพ
รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น เอ็กซ์แอลและ เอ็กซ์แอลเอสใหม่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ มอบพละกำลัง 125 แรงม้า และแรงบิด 320 นิวตัน-เมตรมาพร้อมระบบเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีดเพื่อการบรรทุกและลากจูงอย่างเต็มสมรรถนะโดยฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่รุ่น โอเพ่นแค๊บ ไฮไรเดอร์ เอ็กซ์แอลเอสสามารถลากจูงน้ำหนักได้สูงสุดถึง1.5 ตันและรับน้ำหนักบรรทุกสูงถึง 1.3 ตัน

DCIM115GOPRO

ดีไซน์แกร่ง ทันสมัยพร้อมฝ่าฟันทุกอุปสรรค
รูปลักษณ์ภายนอกของ ฟอร์ดเรนเจอร์รุ่นเอ็กซ์แอลและเอ็กซ์แอลเอสใหม่ได้รับการออกแบบให้โดดเด่นและแสดงถึงสมรรถนะอันทรงพลังของรถ จากกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและแนวเส้นบนกระโปรงหน้ารถที่ดูบึกบึน ห้องโดยสารภายในใช้วัสดุทนทาน ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นแบบรถยนต์นั่งโดยเน้นให้ห้องโดยสารดูกว้างขวางยิ่งขึ้นและยังให้ความรู้สึกทันสมัย ช่วงล่างของฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น เอ็กซ์แอลและเอ็กซ์แอลเอสใหม่ นี้ ได้รับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะในการบรรทุกและลากจูงสำหรับการใช้งานหนัก

ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ พร้อมพาผู้ขับขี่ลุยไปในทุกเส้นทาง โดยในรุ่นไฮไรเดอร์ หรือรุ่นยกสูง สามารถขับขี่ลุยน้ำได้ที่ความลึกถึง 800 มิลลิเมตร และส่วนพื้นรถที่สูงถึง230 มิลลิเมตรออกแบบมาเพื่อรับมือกับการขับขี่เส้นทางวิบากได้อย่างคล่องตัว ด้วยมุมตัดที่ 28 องศา และมุมจากที่ 25 องศา ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับขึ้นลงทางลาดชันได้อย่างมั่นใจ

ฟอร์ด เรนเจอร์

รถกระบะที่มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยและความปลอดภัยครบครัน
ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น เอ็กซ์แอลและเอ็กซ์แอลเอสใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ และยังสามารถควบคุมการขับรถได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ
•ระบบเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธ พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารภายในตัวรถช่วยให้ผู้ขับขี่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์เพื่อความบันเทิงแบบดิจิทัลผ่านการเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธและช่องเชื่อมต่อยูเอสบีเพื่อรับฟังเพลงและคุยโทรศัพท์โดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัย
•ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)ช่วยประหยัดน้ำมันและมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ขับขี่เมื่อต้องเดินทางไกลหรือต้องขับรถเป็นเวลานาน
•มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอีกมากมาย อาทิถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ระบบกุญแจนิรภัย (Immobilizer) และในรุ่นดับเบิ้ลแค็บมีจุดยึดสำหรับเบาะนั่งเด็ก (ISOFIX)

ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น เอ็กซ์แอลและ เอ็กซ์แอลเอสใหม่ มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน ออโรร่า บลู (Aurora Blue) สีแดง ทรู เรด (True Red) สีขาว คูล ไวต์ (Cool White) สีดำ แบล็ก ไมก้า(Black Mica) และสีเงินอลูมิเนียมเมทัลลิก (Aluminum Metallic)

ายละเอียดราคารถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น เอ็กซ์แอลและ เอ็กซ์แอลเอสใหม่:

รุ่นสแตนดาร์ดแค็บ จำนวน 3 รุ่น
Standard Cab 2.2L XL 4×2 Low-Riderราคา 549,000
Standard Cab 2.2L SWB HP 4×2 HR 6MT ราคา 575,000
Standard Cab 3.2L SWB 4×4 w/TMS 6AT ราคา 749,000

รุ่นโอเพ่นแค็บ จำนวน 3รุ่น
Open Cab 2.2L XL 4×2 Low-Rider ราคา 599,000
Open Cab 2.2L XLS 4×2 Low-Rider ราคา 659,000
Open Cab 2.2L XLS 4×2 Hi-Rider ราคา 699,000

รุ่นดับเบิ้ลแค็บ จำนวน 1รุ่น
Double Cab 2.2L XLS 4×2 Hi-Rider ราคา 789,000

นอกจากนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น เอ็กซ์แอลและ เอ็กซ์แอลเอสใหม่ ยังมาพร้อมบริการหลังการขายต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเป็นเจ้าของให้กับลูกค้าฟอร์ด อาทิ บริการฟรีค่าแรงสำหรับการเข้ารับบริการบำรุงรักษารถตามระยะ
ทางถึง5 ครั้ง (45 เดือน หรือ75,000กิโลเมตรแรก แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
การรับประกันคุณภาพรถนาน 3 ปี / 100,000 กิโลเมตร
ระยะการเข้ารับบริการทุกๆ 15,000 กิโลเมตร / 9 เดือน ช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาให้ต่ำลง
โปรแกรมช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง[fblike]

Previous articleจีเอ็มประกาศแผนธุรกิจ2016
Next articleเคย์แมน แบล็ก อิดิชั่น สองคำ”ดำดุ”